เป็นมากกว่าทีม! อีกหนึ่งมุมของ ต้น GT หลังไม่ได้ไปต่อใน SMTM Thailand (มีคลิป)
ผ่านรอบ Team Show Performance ไปอย่างเข้มข้น สำหรับ Show Me The Money Thailand รายการค้นหาแร็ปสตาร์หน้าใหม่ของประเทศไทย ออริจินัลจากประเทศเกาหลี เดินทางมาถึง EP.10 แล้ว อีกหนึ่งคนที่ถูกพูดถึงในรายการก็คือ AKA - GT หรือ ต้น - อรุณพงค์ นราพันธ์ จากทีม DAJIMDAJAZZ แร็ปเปอร์พ่อลูกอ่อน ผู้ทุ่มเทเพื่อครอบครัว หลายคนมาว่าถูกเขียนสคริปให้ดราม่า ร้องไห้ทุกครั้งหรือเปล่า มาฟังจากปาก GT กันแบบจัดเต็ม ว่าการมาร่วมงานกับ PD ดาจิม และ แจ๊ส เป็นอย่างไร และสไตล์การแร็ปที่แท้จริงของเขาคือแบบไหนกันแน่ (ติดตามดูข่าวอื่น ๆ ของ SMTM Thailand ได้ที่นี่)
ทำไมเลือกมาสมัครรายการ SMTM Thailand
GT: เพราะผมดูเวอร์ชั่นเกาหลีอยู่แล้ว เรารู้สึกว่าเราชอบเพราะว่าเขาทำโชว์แข่งกัน ซึ่งมันเป็นอารมณ์ของนักดนตรี ของทุกคนอยู่แล้วที่อยากจะทำโชว์หรือว่าอะไรที่มันมันยิ่งใหญ่ครับผม เราก็เลยเลือกลงรายการนี้เพราะว่าเราอย่างทำโชว์
ตั้งแต่รอบแรกจนถึงรอบปัจจุบันมีความกดดันไหม
GT: กดดันทุกรอบครับ คือก็อย่างว่ามันมีความหวัง มันมีความหวังทุกรอบ ความหวังที่จะเข้าไปซึ่งยิ่งเข้ารอบก็ยิ่งหวัง ยิ่งเข้ามายิ่งหวั งแล้วมันก็กด และความกดดันก็ตามมาครับผม การพัฒนาก็ เราได้ทำอะไรย้ำ ๆ อย่างเช่นเมื่อก่อนเราอาจจะแร็ปน้อยลง อยู่กับเรื่องพวกนี้น้อยลง แต่พอเราเข้าสู่การแข่งขัน และมันกลับกลายเป็นว่าเราจะต้องคิดคำแล้วจะต้องหนัก คือคัดคำเพื่อที่จะไปสู้เพื่อให้ pd เห็น ว่าเรามีประสิทธิภาพหรือว่าคำมันโดน แต่จริง ๆ แล้ว ผมก็ใช้คำบ้าน ๆ ส่วนใหญ่ผมก็ทำเหมือนอารมณ์มันเล่าชีวิต ถ่ายทอดลงไปในไรมห์ที่เราแต่งมากกว่า
ร่วมงานกับ PD DAJIMDAJAZZ เป็นยังไง
GT: มีความสุขครับ มันมากกว่าทีมจริง ๆ ทีมดาจิมดาแจ๊ส ซึ่งพี่เขาไม่ได้ตีกรอบให้เรา หรือไม่ได้เอาโขนมาใส่ให้เรา ว่าเราจะต้องเป็นเหมือนอย่างพี่เค้า หรือจะเป็นในแบบนี้เขาเป็น ส่วนใหญ่เขาจะถามเราว่าเราชอบแบบไหน เราอยากเป็นแบบไหน คือเหมือนต่างคนต่างมา 50-50 อย่างเช่น บีท เราเสนอพี่เขาไป แล้วพี่เค้าก็ปรับเปลี่ยนนิดหน่อย แล้วส่วนไรมห์ หรือไงเราก็เขียนไป ถ้าคำไหนมันแรงไปเขาก็จะปรับเปลี่ยนให้ บอกเราว่า เฮ้ยพี่ว่าเปลี่ยนดีกว่าไหม ส่วนใหญ่มันเลยเป็นตัวของตัวเรา
และเวลาที่เราถ่ายทอดออกไปมันเลยเป็นอารมณ์จากใจเราจริง ๆ ซึ่งบางคนอาจจะคิดว่าการร้องไห้ดราม่า รายการทำหรือเปล่า จริง ๆ แล้วมันไม่ใช่เลย รายการนี้เขาไม่ได้เซ็ทให้เราเอาไว้ว่า คุณต้องร้องไห้นะ คุณต้องทำงั้นงี้นะ ต้องเข้าใจเลยว่ามันเป็นราวของเรา เขียนมาจากชีวิตเรา และเวลาเราเล่ามา ด้วยความที่บรรยากาศมันอบอวลไปด้วยความกดดัน การแข่งขันอะไรหลาย ๆ อย่าง มันเลยทำให้เรารู้สึกว่าเวลาเราปล่อยออกมา มันรู้สึกว่า จริง ๆ มันก็เลยอยากจะร้องไห้
GT: ไม่ได้คาดหวัง แต่ว่าผมเห็นความตั้งใจของพี่เขามาก ที่จะอยากทำให้ลูกทีมไปสู้กับทีมอื่น ถ้าเปรียบเทียบ ก็เหมือนทีมอื่นเขามีมีดมีปืนกันหมด ส่วนทีมผมก็เหมือนมีไม้กระบอง ตีเขาตีก็ไม่ตาย เขายิงมาตายหมด ผมก็เลยไม่อยากจะคาดหวังอะไร แต่สิ่งที่ได้รับกลับมามันยิ่งกว่านั้น ซึ่งเหมือนพี่แจ๊สจะพูดตลอดว่า เราไม่ได้รู้จักกันแค่ในรายการ ซึ่งออกมาข้างนอกแล้วก็เป็นพี่น้องกันเหมือนเดิม ซึ่งทุกวันนี้ผมก็ยังไปกินข้าวไปนอนบ้านเขาเหมือนเดิม
GT: วัน Outing กับทีม มีความสุขครับ แต่รู้สึกว่า ความสุขมันสั้นไป มันรู้สึกว่ายังฉันพี่แจ๊ส ตอนแรกไม่ได้เลือกแกนะ ไม่คิดว่าแกแร็ปเป็น หรือว่าอะไรนะ ผมเลือกแกตรงที่ว่า เราชอบเขา ชอบ Lifestyle ชีวิตเขา แล้วเราแบบอารมณ์ว่า เราติดตามพี่เขา ดูรายการอะไรหลายรายการ เราก็เลยอยากเลือกพี่เขาตรงนี้ อยากไปรู้จักพี่เขามากขึ้น ว่าพี่เขาเป็นยังไงว่าพี่เขาเป็นเหมือนสิ่งที่พี่เขาพูดหรือเปล่า เพราะว่าตอนนั้นที่ไปเลือกแก่อย่างน้อยก็มีพี่ตั้ม ดาจิม ค้ำอยู่ ว่าไปตามก็พัฒนาไปตามดาจิม แต่พอไปไปอยู่จริง ซึ่งมันได้อะไรมากกว่านั้นซึ่งผมก็ไม่รู้ตัวตนวิจารณ์มากขึ้น พอไปใช้ชีวิตแบบนอกจอ เหมือนไปอยู่บ้านไปทำความรู้จัก ทำให้เห็นว่า พี่แจ๊สเป็นคนที่ฟังเพลงเยอะมาก จนบางเพลงผมยังไม่เกิดเลย ก็มีสิ่งดี ๆ พี่เขามันของจริง บางคนไปมองเขาเป็นตลกแค่นั้นเอง อันนี้ไม่ได้พูดเพราะอยู่ทีมเดียวกันนะ แต่จริง ๆ ผมไปสัมผัสมัน ผมเลยรู้สึกว่า พี่เขาไม่รู้สึกเสียดายเลยที่เลือกพี่เขา ถ้า Season 2 นะ ถ้าผมลงแล้วผมได้ถึงขั้นรอบเลือกทีมอีกครั้ง ผมก็มั่นใจแล้วว่า ผมจะเลือกทีม DAJIM DAJAZZ แน่นอน
วิธีการทำเพลงของทีม DAJIMDAJAZZ
GT: ส่วนใหญ่พี่เขาจะให้เล่าชีวิตของแร็ปเปอร์แต่ละคนมากกว่า ส่วนใหญ่เขาจะให้โจทย์มาเลยว่า เพลงนี้บีทนี้เล่าชีวิต เล่าความรักเล่าสิ่งที่เจอมาในกับชีวิตนะ แล้วมันก็เลยกลายเป็นว่า สิ่งที่เราเล่าเราถ่ายทอดในรายการมันคือชีวิตเราจริง มันคือตัวตนเรา ไม่เชื่อก็ไม่ได้ เพราะว่าผู้ผมเอาชีวิตจริง ๆ ของพวกผม พวกพี่เขาก็เลยไม่ค่อยที่จะเอาตัวตนของพวกพี่ตั้ม ดาจิม หรือพี่แจ๊ส เข้ามาใส่ให้เราครับ ผมมันก็เลยเป็นตัวตนของเรามากขึ้น ไม่ได้มาบังคับเราว่า คุณจะต้องไปจบเหมือนผมนะ คุณต้องไปแว้นฟ้อหล่อเฟี้ยวเหมือนพี่ซึ่งแบบไม่เลย ผมคิดว่าคนดูทางบ้านคงจะคิดว่าเลือกทีมนี้ ต้องออกมาเป็นอย่างนี้แน่ ต้องมาแบบโจ๊ะ ๆ สามช่า แต่พอจริง ๆ เราไม่เลย ซึ่งออกมา hiphop จ๋า
สรุป การเอาชีวิตจริง ๆ ของเรามาทำเพลง มันยากหรือง่าย?
GT: ยากครับตอบเลย มันเป็นอารมณ์แบบว่า ถ้าพูดถึงแล้ว มันเป็นเหมือนอดีตที่เลวร้าย ใครก็ไม่อยากจะขุดมันขึ้นมาพูด ขุดมันขึ้นมาเล่าให้ใครก็ไม่รู้มาฟัง แล้วการที่เราไปเอามา มันไม่เหมือนบางครั้งที่ผมนั่งคิดเอง บางทีก็จะมีอารมณ์โมโห มันยากที่จะเอาเรื่องปมของเรามาพูด ยิ่งคิดมันยิ่งเครียด ยิ่งคิดยิ่งเครียด บางครั้งมันเหมือนเราแบกอะไรสักอย่างหนึ่ง รายการนี้ คือเรา คือแต่ละคนผมไม่รู้ว่าเขาอยากเข้ามา เขาต้องการอะไร พรีเซนท์ในนรูปแบบไหน แต่ของผมอยากทําลายเซ็นต์ของผมเอง ลายเซ็นของเพลง ที่ทำให้คนจดจำผมว่า คนนี้ทำเพลงแร็ปเพื่อชีวิต แร็ปเกี่ยวกับชีวิต เกี่ยวกับสังคม ผมก็เลยอยากเอาชีวิตของผมออกมาเล่า ความรู้สึกผม ว่าชีวิตผมเป็นแบบนี้นะมันต้องคนบนโลกนี้มันต้องมีหลายคนที่เป็นมุมดิ แล้วทุกคนต้องได้อะไรจากเพลงผมดิ ได้กำลังใจดิ ขนาดผม ชีวิตผมมันแย่ขนาดนี้ ผมยังอยู่ได้ ทุกคนก็ต้องยืนอยู่ มันก็พูดยาก มันเป็นอะไรที่พูดยากมาก แต่ก็ยากนะ ที่จะเค้นเอาชีวิตตัวเองออกมาทำเพลง
ชื่อจริง อรุณพงค์ นราพันธ์
ชื่อเล่น ต้น
เกิดวันที่ 10 กรกฎาคม 2534
อาชีพปัจจุบันเป็นช่างสัก
สามารถติดตามเค้าได้ที่ IG : gt_chink99
นอกจากผลงานเพลงของ GT ในรายการ Show Me The Money Thailand แล้ว เร็ว ๆ นี้ก็จะมีผลงานภาพยนตร์ด้วย รวมทั้งยังเป็นช่างสัก สนใจลองติดตามกันได้นะคะ และอีกคนที่ต้องตกรอบไปก็คือ TORDED จ่ากทีม SUNNYCASH ติดตามอ่านสัมภาษณ์ของเขาได้ที่นี่