"MON MONIK" กับ "DIM TATTOO COLOUR" ส่งท้ายโปรเจ็กต์พิเศษ RS Music Switching Voice
การเดินทางมาถึง 2 เพลงสุดท้ายสำหรับโปรเจ็กต์พิเศษ "RS Music Switching Voice" ที่มีคอนเซ็ปต์ "ผู้หญิงร้องเพลงผู้ชาย ผู้ชายร้องเพลงผู้หญิง" โดยในสัปดาห์นี้เป็นผลงานซิงเกิลที่ 9 "ขอคืน" (Original by BoyScout) เพลงเศร้าที่ถูกนำมาเรียบเรียงใหม่สไตล์ Pop Rock ในแบบของศิลปินสาวเสียงเท่ "MON MONIK" จากค่าย HOLYFOX ที่ใส่อินเนอร์ผ่านเสียงร้อง ส่งให้อารมณ์เพลงนี้เศร้าลึกลงไปอีก ยิ่งมิวสิกวิดีโอนำเสนอเรื่องราวที่เกิดขึ้นในห้องที่เต็มไปด้วยทุ่งหญ้า บอกเล่าอารมณ์เศร้าของผู้หญิงคนหนึ่งที่ขอจบความสัมพันธ์กับคนรัก และอยากจะคืนความรักความอิสระให้แก่กัน ซึ่งในการถ่ายทำเอ็มวีแบบ LONG TAKE มนก็ได้ถ่ายทอดอินเนอร์ความเสียใจของผู้หญิงที่ยอมแพ้ และพร้อมยอมรับความเป็นจริงออกมาได้แบบเศร้าสุด ๆ ในบรรยากาศโลเคชั่นห้องทุ่งหญ้าที่เต็มไปด้วยความเหงา และความว่างเปล่า พร้อมความพิเศษตรงที่มีการนำเอ็มวีต้นฉบับมาฉายผ่านโปรเจคเตอร์ในช่วงที่มนร้องเพลง เพื่อเติมอารมณ์ความหม่นเศร้าให้คนดูได้อินตามจนอาจถึงขั้นเสียน้ำตา
"วงบอยสเก๊าท์ถือเป็นศิลปินไอดอลของมนเลยค่ะ และชอบเพลงนี้มาตั้งแต่เด็ก คือได้ยินครั้งแรกตอนอยู่ชั้น ป.4 และเป็นช่วงที่กำลังมีความรักป็อบปี้เลิฟเลย ยอมรับว่ามีความกดดันไม่น้อยค่ะที่ได้นำเพลงนี้กลับมาทำใหม่อีกครั้ง แต่ก็ดีใจมากที่จะได้นำเพลงที่ตัวเองชอบมาร้องเป็นเวอร์ชัน Official ซึ่งมนได้ปรับดนตรีให้มีความเป็นแนวป็อปร็อกมากขึ้น แต่ยังเน้นเรื่องการร้องด้วยอารมณ์ ให้ฟังแล้วกินใจตามสไตล์ของตัวเอง เพราะในความรู้สึกของมนเพลงนี้ถือเป็นเพลงเศร้าสุด ๆ เลยตีความออกมาว่าเป็นเพลงของคนที่ยอมแพ้ เข้าใจชีวิต คือรู้สึกว่าถ้าเธอไม่รักเราแล้วก็ขอคืนความรักครั้งนี้ไปให้เธอ แอบบอกว่ารู้สึกอินจนร้องไห้หลังจากอัดเสียงเสร็จเลยค่ะ" MON MONIK เผยความในใจ
อยากรู้ว่าฟังแล้วจะเสียน้ำตาด้วยมั้ย ลองคลิกชม MV ขอคืน ได้ที่ >> https://bit.ly/3LXR7VG
ส่วนซิงเกิลส่งท้ายของโปรเจ็กต์ กับศิลปินหนุ่มเจ้าพ่อเพลงเศร้า "DIM TATTOO COLOUR" สังกัด Smallroom ที่เลือกเอาเพลงฮิตอย่าง "ยอมตั้งแต่หน้าประตู" (Original by 001) มาตีความใหม่ ใส่ลูกเล่นผ่านเสียงร้องที่คุ้นเคย และบวกท่อน Rap ที่แต่งขึ้นมาใหม่ สร้างสีสันให้กับเพลงนี้ได้เป็นอย่างดี สำหรับเอ็มวีเป็นเรื่องราวที่เกิดขึ้นในห้องซักรีด บอกเล่ามุมมองของผู้ชายที่พร้อมตัดใจให้กับความรักที่ไม่ดี พยายามจะมูฟออนให้ได้ แต่ทุกอย่างก็ต้องจบลงเพราะความคิดถึง สุดท้ายเราก็ต้องกลับมาเป็นคนแพ้อยู่ดี ซึ่งในการถ่ายทำเอ็มวีแบบ LONG TAKE ดิมก็ได้ถ่ายทอดอารมณ์การแสดงออกมาได้สมศักดิ์ศรีศิลปินตัวพ่อ เก็บครบหมดทั้งอินเนอร์ความเศร้า ความคิดถึง หรือจะเป็นท่าทางการโยกเบา ๆ ไปตามจังหวะ และยังจะได้เห็นมุมความเท่ในช่วงท่อน Rap กันด้วย โดย DIM TATTOO COLOUR ให้สัมภาษณ์ว่า
"ปกติดิมจะร้องเพลงในนามวง TATTOO COLOUR แต่โปรเจกต์นี้ ถือเป็นครั้งแรกที่ ดิม ได้มาทำงานในฐานะศิลปินเดี่ยว ซึ่งการเลือกเพลงก็ค่อนข้างยาก มีหลายเพลงที่อยากร้อง เพราะเพลงอาร์เอสแต่ละเพลง มีคุณค่า และเพราะมากอยู่แล้ว เลยไม่อยากนำมาทำให้เสีย ซึ่งเหตุผลที่เลือกเพลง ยอมตั้งแต่หน้าประตู ของ 001 เพราะเพลงนี้มีความเป็นสไตล์อาร์แอนด์บีที่ไม่ได้ร้องมานานแล้ว เลยคิดว่าเหมาะกับตัวเองครบ เคยได้ยินเพลงนี้ครั้งแรกตั้งแต่ช่วงเรียนมหาวิทยาลัยขอนแก่น เวลาไปปาร์ตี้แฮงค์เอาท์กับเพื่อน ๆ และต้องยอมรับเลยว่าเพลงนี้ในยุคนั้น ซาวด์เพลงคือดีมาก ฟังแล้วติดหู ตอนเลือกเพลงนี้มาทำในเวอร์ชันของตัวเอง ก็คิดว่าจะทำยังไงให้เพลงนี้มีความโมเดิร์นแตกต่างไปจากต้นฉบับแบบไม่เสียของ เลยคิดไอเดียเพิ่มท่อน Rap เข้าไปให้มีความทันสมัยมากขึ้น"
โดยในเอ็มวีนี้ยังปิดท้ายด้วยซีนโชว์ฉากสตูดิโอที่ใช้ในการถ่ายทำโปรเจ็กต์นี้ทั้งหมด ถือเป็นการสิ้นสุดการเดินทางของ Switching Voice ที่ได้พาทุกคนเข้าไปพบกับเรื่องราวในห้องต่าง ๆ จากเพลงดังของอาร์เอส ที่ถูกนำมาแลกเสียงร้อง และถ่ายทอดโดยศิลปินดังรุ่นใหม่ ในมุมมองมิติใหม่ ผ่านเสียงร้องและอารมณ์ที่แตกต่างไปจากเดิม ชมเอ็มวี "ยอมตั้งแต่หน้าประตู" ของ "DIM TATTOO COLOUR" ได้ที่ >> https://bit.ly/3QjYZmW