รีเซต

ประวัติ แฮนน่า 4EVE สาวลูกครึ่งสปป.ลาวอเมริกา ร้องข้ามกำแพงล่าสุด

ประวัติ แฮนน่า 4EVE สาวลูกครึ่งสปป.ลาวอเมริกา ร้องข้ามกำแพงล่าสุด
MusicHot
25 ตุลาคม 2565 ( 16:47 )
40.9K

ประวัติ แฮนน่า 4EVE หรือ แฮนน่า โรสเซ็นบรูม สาวลูกครึ่งสปป.ลาวอเมริกา แม่เป็นคนสปป.ลาว พ่อเป็นคนอเมริกา เกิดที่ประเทศไทย แต่ไปเรียนที่สปป.ลาว กลับไปอยู่ลาวตอนอายุประมาณ 8 ขวบ เพราะว่าแม่ย้ายกลับลาว แล้วพ่อก็เลยย้ายเราไปลาวด้วย แล้วก็เปลี่ยนงานทุกอย่างอยู่ที่ประเทศสปป.ลาว 

แต่หนูถ้าอยู่ที่บ้านหนูจะเป็นคนเงียบมาก เป็นคนนิ่ง ๆ แต่ว่าที่เรามาอยู่จุดนี้ได้ก็เพราะพ่อซัพพอร์ท เพราะว่าพ่อชอบเห็นหนูในเวอร์ชั่นที่ตัวเองแอคทีฟ ตัวเองร่าเริง เขาไม่ชอบที่เห็นหนูเงียบ ๆ เขาก็เลยอนุญาตให้หนูทำ หนูก็เลยเป็นคนที่ทำทุกอย่างให้ทุกคนแฮปปี้เพื่อมอบความสุข

 

ประวัติ แฮนน่า 4EVE สาวลูกครึ่งสปป.ลาวอเมริกา ร้องข้ามกำแพงล่าสุด

 

จุดเริ่มต้นในวงการบันเทิงลาว

ตอนเด็ก ๆ เป็นคนขี้อาย ไม้กล้าอะไรแบบนี้ แต่ชอบแต่ก็ไม่กล้าแสดงออกเพราะว่าขี้อาย แล้วกลัวร้องเพี้ยนด้วย เพราะปกติเป็นคนร้องเพลงไม่ค่อยเพราะ แล้วก็เต้นไม่เป็น ถ้าเกิดเป็นเรื่องการร้องเพลง มันเริ่มมาจากพี่สาวของแฮนน่า เขาเป็นคนร้องเพลงเพราะมาก แล้วก็ชอบเปิดเพลงฟัง แล้วแฮนน่าเองเวลาร้องเพลงหรือทำอะไรก็จะทำเงียบ ๆ  ตอนนั้นพี่สาวเคยบอกว่าร้องเพราะไม่เพราะหรอก ไม่ต้องร้อง เราก็เลยอยากพิสูจน์ตัวเอง ก็เลยชวนเพื่อนพากันโดดเรียน เพื่อไปประกวดร้องเพลง 

โดยหลังจากที่ประกวดร้องเพลงเสร็จแล้ว ก็เลยทำให้รู้สึกอยากทำอะไรมากขึ้น เพราะรู้สึกว่ามันน่าลอง เพราะเราไม่รู้ว่าอันไหนที่จะเหมาะกับเราจริง ก็เลยลองประกวดเดินแบบ ประกวดนู้นนี้นั้น แล้วมีอยู่ครั้งหนึ่งเป็นโครงการที่ประกวดที่เราสามารถเลือกได้ว่า จะประกวดเต้น ร้องเพลง หรือเดินแบบ เพราะตอนนั้นลังเลว่าเราจะไปทางไหนดี ก็เลยโอเคไปสายเดินแบบ ประกวดและก็ติดท็อป 3 แล้วพอดีว่าวันนั้นมีผู้กำกับหนังเรื่องหนึ่ง เรียกให้ไปแคสซีรีส์ก็เลยไปแคสแล้วหลังจากนั้นก็เข้าวงการเลย จากนั้นก็เลยเริ่มมีงานเข้ามา

 

หาโอกาสให้กับตัวเอง

หนูรู้สึกว่าประเทศลาวเราเติบโตมากับหนังไทย ซีรีส์ไทย เราฟังเพลงไทย เราดูหนังไทย เราเสพสิ่งที่อยู่ไทย วงการที่ลาวมันจะเล็กอยู่ แล้วด้วยความที่ว่าโอกาสอาจจะไม่เยอะเท่าที่ประเทศไทยด้วย หนูเป็นคนไม่อยู่นิ่ง จริง ๆ โอกาศมันก็มีมาตลอดเวลา อยู่ที่ว่าใครจะคว้ามัน

แล้วหนูเป็นคนที่ไม่อยากเสียโอกาสไปเปล่า ๆ อะไรที่เราอยากทำหรือว่าตั้งใจทำ หนูก็จะคว้าโอกาสนั้นเลย ด้วยความที่ตัวเองเป็นคนไม่ Stop Moving คือ  Keep going เรื่อย ๆ ก็จะมีโอกาสเรื่อย ๆ แล้วเราก็ได้พัฒนาตัวเองไปเรื่อย ๆ ถ้าคุณประกวดอันเดียวแล้วตกรอบ แล้วคุณไม่ไปต่อคุณก็จะมีสิทธิ์แค่นั้นนะ แต่ถ้าคุณประกวดแล้วคุณตกรอบ แล้วคุณรู้สึกว่าอยากจะแก้ไขมัน แล้วคุณทำไปเรื่อย ๆ อันนั้นคือโอกาสของคุณจะมีสิทธิ์มากขึ้น

 

เหมือนหนูมาประกวดที่ไทย Girl Group Star คือหนูไม่ได้เตรียมอะไรเลยตอนมาประกวด แต่เรารวบรวมจากประสบการณ์ที่เรามีก็คือ เรากล้าแสดงออก เรากล้าพูดต่อหน้าคนเยอะ ๆ เราได้ประสบการณ์ที่เราเคยผ่านมาแล้วเราเอามาใช้ แล้วหนูก็ไม่คิดว่าหนูจะได้เดบิวต์ด้วย หนูเลยรู้สึกว่าถ้าเราไม่หยุด เรา Keep going อันนั้นมันก็คือโอกาส ความเก่งหรือความพยายามหนูรู้สึกว่ามันเท่ากัน อยู่ที่ว่าใครจะพยายามมากใครจะพยายามน้อย คือเราไม่รู้ว่าใครเรียนเต้นมาตั้งแต่เด็ก

หรือใครเรียนร้องเพลงมาตั้งแต่เด็ก หนูแค่รู้ตัวเองว่าทำยังไงให้เราเท่าเพื่อนหรือว่ามากกว่าเพื่อนไปทีละวัน คือเราต้องพัฒนาไปทุก ๆ วัน หนูไม่สามารถอยู่ที่เดิมได้ เราต้องมีเป้าหมายด้วย หนูก็เลยพยายามผลักดันตัวเอง ทำให้มันดีขึ้นทุก ๆ วัน เพื่อที่จะให้มีคอมเมนต์น้อยที่สุด เกี่ยวกับตัวเองว่ามันไม่ดี หรือว่ามันไม่โอเค 

 

ตัวแทนความภูมิใจของสปป.ลาว

รู้สึกดีใจอย่างหนึ่งก็คือมีผู้ใหญ่ที่ลาว เขาทักมาหาว่าแบบดีใจด้วย ดีใจมากที่หนูเป็นตัวแทนวัยรุ่นลาวที่กล้ามาแสดงความสามารถที่ไทย คือคนลาวบางกลุ่มอาจจะคิดว่าแบบ คนไทยเก่งกว่าคนลาว เราไม่มีประสบการณ์ เราด้อยกว่าแต่ถ้วยความพยายาม เราก็สามารถทำได้ ก็ดีใจคนก็เห็นเราเป็นแรงบันดาลใจ เราก็ภูมิใจที่เขาเห็นเราแบบนั้น

เพราะว่ามันยากมาก ๆ ค่ะ ที่คนลาวจะมาสร้างชื่อเสียงที่ไทย คือมันไม่ใช่ว่าทุกคนจะทำได้ การที่ได้ออกทีวีไทยมันเป็นอะไรที่แบบนัมเบอร์วันและสุดยอด สำหรับคนไทยก็ทำไมคุณถึงได้ออกนิตยสารที่ลาว ได้ออกหนังสือพิมพ์ ทำไมคนถึงพูดถึงคุณเยอะแยะ เพราะมันเป็นเรื่องที่ใหม่มาก ๆ สำหรับคนที่ลาว กับการที่เราจะมาสร้างชื่อเสียงที่ไทยอะไรประมาณนี้

 

แล้วด้วยความที่กระแสมันดีด้วย คนลาวก็เลยเชียร์เราเต็มที่โหวตให้เราอะไรประมาณนี้ กระแสมันก็เลยเริ่มกระจาย แล้วก็หลังจากที่เดบิวต์แล้ว ไม่กี่วันก็ออกหนังสือพิมพ์ ทางหนังสือพิมพ์ Vientiane Times ก็ถือว่าเป็นอันดับต้น ๆ ของที่ลาวเลย เขาก็ทักมากาว่าเขาอยากเขียนเกี่ยวกับหนู ว่าหนูไปประกวดยังไงมาก เราก็ให้ข้อมูลเขาไปเขาก็ไปเขียน 

เป้าหมายในวันข้างหน้า 

หนูตั้งใจมาก ๆ ว่าถ้าหนูมีโอกาส ถ้าเราพัฒนาที่ไทยหรือว่ามีโอกาสได้ทำอะไรที่มากขึ้น หนูอยากกลับไปพัฒนาประเทศของตัวเองมาก ๆ เพราะว่าเรารู้สึกว่าเด็กรุ่นใหม่ที่ลาวเขามีคนเก่งเยอะมาก แต่ว่าเขาไม่มีโอกาสที่จะได้ทำมัน หนูเลยรู้สึกว่าถ้าในอนาคตเรามีโอกาส ที่สามารถจะมอบโอกาสให้พวกเขา เราก็อยากที่จะไปทำให้มันดีขึ้นที่ลาว เพื่อที่เราจะสามารถพัฒนาจะได้มีผลงานที่ลาวมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นละคร หนัง เพลง เกิร์ลกรุ๊ป ที่ลาวเราจะได้มีมากขึ้น เราจะได้ดูกันเองอะไรประมาณนี้ 

 

 

ขอขอบคุณข้อมูลจาก Youtube Channel : WorkpointTODAY PLAY

 

 

ฟังเพลงออนไลน์ เพลงใหม่ ได้แล้ววันนี้บน TrueID ทั้ง เว็บไซต์ และ แอปพลิเคชัน 

 

 

อ่านข่าว เพลงใหม่วันนี้ อื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง :

 

บทความที่เกี่ยวข้อง