"NCT DREAM" สร้างดินแดนแห่งความฝันในอุดมคติ พร้อมผู้ร่วมงานกว่า 65,000 คน
‘NCT DREAM’ (เอ็นซีที ดรีม) ครองราชมังคลากีฬาสถาน สร้างดินแดนแห่งความฝันในอุดมคติ พร้อมผู้ร่วมงานกว่า 65,000 คน กับคอนเสิร์ตครั้งประวัติศาสตร์สุดยิ่งใหญ่ ‘2024 NCT DREAM WORLD TOUR <THE DREAM SHOW 3 : DREAM( )SCAPE> in BANGKOK’ (2024 เอ็นซีที ดรีม เวิลด์ ทัวร์ <เดอะ ดรีม โชว์ ทรี : ดรีม สเคป> อิน แบงค็อก) 2 รอบการแสดง ในวันเสาร์ที่ 22 มิถุนายน 2567 และวันอาทิตย์ที่ 23 มิถุนายน 2567 พิสูจน์ความนิยมที่เติบโตแบบก้าวกระโดด อัปสเกลสถานที่จัดตั้งแต่คอนเสิร์ตครั้งแรก ณ ธันเดอร์โดม (ผู้ร่วมงาน 12,000 คน) จนถึงคอนเสิร์ตครั้งที่สอง ณ อิมแพ็ค อารีน่า (ผู้ร่วมงาน 35,000 คน) และคอนเสิร์ตครั้งที่สามนี้ ทำให้ ‘NCT DREAM’ (เอ็นซีที ดรีม) สร้างสถิติใหม่ที่ดีที่สุดได้สำเร็จ ทั้งการเป็นศิลปินกลุ่มแรกของค่าย SM Entertainment ที่สามารถจัดคอนเสิร์ต ณ สเตเดียมที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย (ราชมังคลากีฬาสถาน) และบัตรคอนเสิร์ตทั้ง 2 รอบการแสดง จำหน่ายหมดเกลี้ยงทุกที่นั่งทันทีภายในวันเปิดจำหน่าย รวมถึงการเป็นศิลปินกลุ่มแรกของค่าย SM Entertainment (เอสเอ็ม เอนเทอร์เทนเมนต์) ที่จำหน่ายบัตรคอนเสิร์ตในประเทศไทยได้มากที่สุดตลอดกาล
สำหรับ ‘DREAM( )SCAPE’ (ดรีม สเคป) ชื่อของอัลบั้มล่าสุดและชื่อคอนเสิร์ตครั้งนี้ เป็นการประกาศมหากาพย์ที่ผสมผสานดนตรีและเรื่องราวที่รวมอยู่ในอัลบั้มเข้าไว้ด้วยกันอย่างไร้ที่ติ พร้อมสื่อว่า ‘NCT DREAM’ (เอ็นซีที ดรีม) ได้ตีความโลกคู่ขนานของความหวังและฝันร้ายออกมาในแบบฉบับของตัวเอง ผ่านเซ็ตลิสต์อันหลากหลาย, วีซีอาร์ที่สอดคล้องกับเพลงแต่ละช่วง อีกทั้งผู้จัดและต้นสังกัดในประเทศไทยอย่าง บริษัท เอสเอ็ม ทรู จำกัด ได้ทุ่มทุนยกโปรดักชันสุดอลังการมาจัดเต็มความยิ่งใหญ่ เพื่อเติมเต็มอรรถรสและความรู้สึกร่วมไปกับการแสดงให้มากที่สุด เนรมิตเวทีที่เป็นสัญลักษณ์ของวง เช่น เวที LED ลูกบาศก์ขนาดยักษ์ กว้าง 12 ม. และสูง 10 ม. ซึ่งเป็นรูปทรงของแท่งไฟอย่างเป็นทางการของ NCT, ทางเดินเวทีที่ยื่นออกมาเป็นรูปเลข 7 เชื่อมระหว่างเวทีหลักกับเวทีรอง, จอเสริมด้านข้างขนาดใหญ่พิเศษ กว้าง 32 ม. และสูง 15 ม. เพิ่มการมองเห็นให้ผู้ชมอย่างทั่วถึงมากขึ้น, เครื่องพ่นไฟกว่า 40 ตัว, เครื่องยิงเลเซอร์กว่า 34 ตัว, รถเลื่อนอัตโนมัติ, โดรนบันทึกภาพ, กระดาษโปรยสั่งทำพิเศษรูปแบบต่าง ๆ นอกจากนี้ ยังใช้ไพโรเทคนิคแต่งแต้มสเตเดียมแห่งความน่าทึ่งที่ไม่อาจลืมเลือนให้กับผู้ชม
ทั้งราชมังฯ ถูกปลุกให้ฮึกเหิมกับโชว์เลเซอร์สุดตระการตา และเมื่อยิงไพโรลูกมหึมาขึ้นเหนือฟ้าเป็นสัญญาณเริ่มต้นความฝันครั้งยิ่งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ของ ‘NCT DREAM’ (เอ็นซีที ดรีม) สมาชิกทั้งหมดปรากฏตัวท่ามกลางเสียงเชียร์กระหึ่ม พร้อมเปิดกล่องความมหัศจรรย์ในเพลง ‘BOX’ ขนทัพแดนเซอร์และสเปเชียลเอฟเฟกต์สุดเร้าใจ คอนเสิร์ตทวีความร้อนแรงอย่างต่อเนื่องในเพลงถัดไป ทั้ง ‘119’, ‘SOS’, ‘GO’, ‘Poison (모래성)’, ‘Drippin’’ ซึ่งพวกเขาได้เผยภาพลักษณ์ที่เติบโตเป็นผู้ใหญ่อย่างเต็มตัวผ่านการแสดงอันทรงพลังและท่าเต้นกลุ่มอันแข็งแรงพร้อมเพรียง อีกทั้งยังมีช่วงเมดเลย์เพลงที่ให้อารมณ์แบบยุค 90 ที่เต็มไปด้วยความสดใส ‘Arcade’, ‘We Go Up’, ‘Bungee’ และเพลงที่บ่งบอกรสชาติของความรักอันซาบซ่านอย่าง ‘Tangerine Love (Favorite)’, ‘Yogurt Shake’, ‘Pretzel (♡)’, ‘Candy’ ตลอดจนเพลงบัลลาดช้า ๆ ‘북극성 (Never Goodbye)’, ‘숨 (Breathing)’ และเพลงที่นำมาเรียบเรียงใหม่เป็นเวอร์ชันแบนด์ขยับจังหวะให้คึกคัก ‘Dream Run’, ‘Better Than Gold (지금)’, ‘Fireflies’, ‘Hello Future’, ‘Broken Melodies’ ต่อยอดความน่าตื่นตาตื่นใจแบบไม่มีพักในลุคนักเต้นบีบอยกับแดนซ์เบรกสุดเท่ในเพลงฮิต ‘Skateboard’ เพิ่มดีกรีความดุเดือดให้กับการแสดงในเพลงฮิต ‘ISTJ’ และเพลงไตเติลจากอัลบั้มใหม่ล่าสุด ‘Smoothie’ บดขยี้ความมัน ระเบิดความสนุกจนถึงขีดสุด ซึ่งนอกจากจะสะกดผู้ชมในทุกช่วงการแสดงแล้ว ‘NCT DREAM’ (เอ็นซีที ดรีม) ยังตั้งใจเตรียมคำพูดภาษาไทยมาสื่อสารเรียกเสียงฮือฮาจากผู้ชม โชว์เสน่ห์หลากสีสันอันน่าประทับใจ สมกับที่ได้รับการขนานนามว่า ‘Performance King’ หรือ ‘ราชาแห่งการแสดงบนเวที’
ช่วงอังกอร์ท้ายคอนเสิร์ต ‘NCT DREAM’ (เอ็นซีที ดรีม) ออกมาพบกับแฟน ๆ แบบใกล้ชิดมากขึ้นบนรถเลื่อนอัตโนมัติที่แล่นไปตามทางรอบสเตเดียมท่ามกลางเพลงจังหวะสบาย ๆ ‘파랑 (Blue Wave)’, ‘고래 (Dive Into You)’, ‘ANL’, ‘Like We Just Met’ โอบล้อมไปด้วยแสงสี Pearl Neon Champagne จากแท่งไฟ และแฟนโปรเจกต์อันมากความหมายจาก NCTzen (เอ็นซีทีเซ็น : ชื่อแฟนคลับอย่างเป็นทางการ) ทั้งการแปรอักษรจากกล่องไฟเป็นคำว่า “✨7+1=🌱”, “영원히 같이 뀨 하자 (ทำกยูด้วยกันตลอดไปเลยนะ)”, “❤7DREAM 4EVER” และรูปกลุ่มดาวหมีเล็ก ไม่เพียงเท่านี้ ยังมีป้ายข้อความซึ้ง ๆ อย่าง “เพราะมี 7DREAM อยู่ ตอนนี้ฉันจึงหายใจได้ เมื่อฉันล้มลงไป 7DREAM ช่วยฉันไว้เสมอ”, “เพราะพวกเราอยู่ด้วยกันตอนนี้ ห้วงเวลานี้จึงมีค่ามากกว่าทอง”, “Forever shining NCT DREAM, Forever shining NCTzen”, “พวกเราจะเป็น NCTzen ให้ 7DREAM ตลอดไป เพราะฉะนั้น ช่วยเป็น 7DREAM ❤ ให้ NCTzen ตลอดไปด้วยนะ”, “เราได้เจอดวงดาวของเราแล้วนะ ! เป็น 7DREAM นั่นเอง” และ “7DREAM ยินดีกับทุกความสำเร็จ ! ขอบคุณที่ทำงานอย่างหนัก” ตลอดระยะเวลาการแสดงกว่า 3 ชั่วโมง 25 บทเพลง ‘NCT DREAM’ และ ‘NCTzen’ ได้หลบมาพักจากเรื่องราวภายนอกเพื่อสร้างดินแดนแห่งความฝันในอุดมคติร่วมกัน ณ ราชมังคลากีฬาสถาน พร้อมจารึกค่ำคืนแห่งประวัติศาตร์ที่ยิ่งกว่าความฝันเป็นจริง