เตรียมตัวออกเดินทาง!! 10 เทศกาลดนตรี Music Festival ไทย - เทศ ที่คอเพลงควรไปเยือน
การไปเยือนเทศกาลดนตรีระดับโลกสักครั้งในชีวิต คงเป็นความใฝ่ฝันของคนรักเสียงเพลง เพราะการได้เห็นศิลปินที่เราชื่นชอบ รายล้อมไปด้วยแฟนเพลงมากมายที่มีความรู้สึกเดียวกัน คือบรรยากาศสุดพิเศษที่ไม่มีอะไรมาเปรียบได้ หรือบางคนที่มีความไม่สบายใจ การได้ไปเทศกาลดนตรีเพื่อปลดปล่อยก็เป็นอีกวิธีหนึ่งที่ช่วยได้ เพราะในเทศกาลดนตรี คือที่ที่เราจะได้ปล่อยของและทิ้งความไม่สบายใจไว้เบื้องหลัง
music.truelife ขอพาคุณไปพบกับ 10 สุดยอดเทศกาลดนตรีระดับโลก ที่ในสักครั้งหนึ่งของชีวิต music lovers อย่างเราๆ ควรจะไปเยือนเพื่อซึมซับบรรยากาศเหล่านั้นก่อนตาย
1. Glastonbury
สถานที่: ซัมเมอร์เซ็ท ประเทศอังกฤษ
ช่วงเวลาที่จัด: มิถุนายน
ทำไมถึงควรไป: ไม่มีงานไหนจะพีคไปกว่า Glastonbury เพราะงานนี้ขนศิลปินกันมาเกือบครึ่งวงการ ซึ่งก่อนหน้านั้นก็มีการคัดเลือกศิลปินที่จะขึ้นไลน์อัพกันอย่างเข้มข้น เรียกได้ว่าไม่ดีจริง เจ๋งจริง ไม่มีเชิญให้มาร่วมเวที อีกทั้งงานนี้จัดติดต่อกันมาตั้งแต่ปี 1970 เลยทีเดียว ถือเป็นงานเทศกาลดนตรีเก่าแก่ที่คุณควรจะไปเยือนซักครั้งในชีวิต
2. Coachella
สถานที่: รัฐแคลิฟอร์เนีย สหรัฐอเมริกา
ช่วงเวลาที่จัด: เดือนเมษายน
ทำไมถึงควรไป: การได้พบกับศิลปินระดับโลกภายในเวลาแค่ไม่กี่วัน ไม่ใช่เรื่องง่าย แต่ Coachella ทำให้คุณได้ เพราะถ้าคุณได้ไปงานนี้เมื่อไหร่ รับรองได้เลยว่ามันจะเป็นช่วงเวลาในความทรงจำของคุณแน่ๆ เพราะนอกจากจะได้พบกับไลน์อัพของศิลปินระดับโลกแล้ว อุปกรณ์และเครื่องไม้เครื่องมือในการจัดงานก็ยิ่งใหญ่เหลือเกิน เพราะขนมาทั้งโฮโลแกรม หรือแม้กระทั่งสนามหญ้าสีเขียวและต้นปาล์ม งานนี้เต็มอิ่มแน่นอน
3. Governors Ball
สถานที่: นิวยอร์กซิตี้ สหรัฐอเมริกา
ช่วงเวลาที่จัด: มิถุนายน
ทำไมถึงควรไป: จัดที่นิวยอร์กก็ว่าสุดยอดแล้ว แต่ถ้าเป็นโซนใกล้ๆ กับเกาะแมนฮัตตัน ก็ยิ่งฟินเข้าไปใหญ่ เพราะงานนี้นอกจากจะได้ฟังดนตรีสดๆ แกล้มบรรยากาศชิลๆ แล้ว ร้านรวงในนิวยอร์กซิตี้ก็ยังพร้อมใจกันขนวัตถุดิบมาปรุงอาหารกันให้สดๆ ภายในงาน ถือว่านอกจากจะได้อิ่มตาอิ่มใจกับคอนเสิร์ตพร้อมบรรยากาศสบายๆ แล้ว ยังได้อิ่มท้องกับอาหารอร่อยๆ อีกด้วย
4. Lollapalooza
สถานที่: ไม่ระบุแน่นอน
ช่วงเวลาที่จัด: สิ้นเดือนกรกฎาคม – ต้นเดือนสิงหาคม
ทำไมถึงควรไป: ถึงแม้จะไม่ใช่งานใหญ่ที่สุดหรือเก่าแก่ที่สุด แต่ก็ได้ชื่อว่าเป็นงานแห่ง pop culture king ที่เคยทำสถิติคนเข้าร่วมงานมากถึง 300,000 กว่าคนมาแล้ว และนอกจากนี้ยังเป็นการรวมเอาศิลปินแนว alternative rock, heavy metal, punk rock, hip hop และ EDM มาไว้ในงานเดียวเพื่อให้สมชื่องานแห่ง pop culture king ตัวอย่างศิลปินที่เคยขึ้นเวทีนี้มาแล้ว ได้แก่ X Japan, Björk, Lorde, The Drums, The Strokes, Arctic Monkeys, Calvin Harris หรือแม้กระทั่ง แม่ก้า Lady Gaga ก็เหยียบเวทีนี้มาแล้ว
5. Isle of Wight
สถานที่: เกาะไอส์ ออฟ ไวท์ ประเทศอังกฤษ
ช่วงเวลาที่จัด: มิถุนายน
ทำไมถึงควรไป: อีกหนึ่งเทศกาลดนตรีที่เก่าแก่ของประเทศอังกฤษ ซึ่งจัดกันในช่วงฤดูร้อนเป็นประจำ โดยภายในงานคุณจะได้พบกับกองทัพศิลปินตั้งแต่ยุค 70 จนมาถึงศิลปินมากฝีมือในยุคปัจจุบัน ซึ่งนอกจากความพิเศษของการรวมรุ่นกองทัพศิลปินแล้ว เทศกาลดนตรี Isle of Wight ยังถือว่าเป็นต้นกำเนิดของเทศกาลดนตรีในยุคแรกๆ เลยก็ว่าได้
6. Primavera Sound Festival
สถานที่: เมืองบาร์เซโลนา ประเทศสเปน
ช่วงเวลาที่จัด: สิ้นเดือนพฤษภาคม – ต้นเดือนมิถุนายน
ทำไมถึงควรไป: จุดเด่นของเทศกาลดนตรี Primavera Sound Festival คือการรวมเอาศิลปินแนวpop, rock, underground electronic และ danceมาไว้ในงานเดียวกัน จัดศิลปินมาให้ซะขนาดนี้ เรียกว่าไปทีเดียวคุ้มสุด เพราะนอกจากจะได้ไปชมเทศกาลคนดรีที่มีหลากหลายแนวเพลงแล้ว เมืองบาร์เซโลนา ก็สวยไม่ใช่น้อย ถือโอกาสเที่ยวชมเมืองก็เป็นความคิดที่ดี ส่วนใครที่บอกว่าเทศกาลนี้มีถ่ายทอดสด แล้วจะไปทำไม music.truelife อยากจะบอกว่า มันไม่เหมือนกันหรอก ไปดูของจริง บรรยากาศจริง ย่อมดีกว่าอยู่แล้ว
7. Woodstock
สถานที่: นิวยอร์กซิตี้ สหรัฐอเมริกา
ช่วงเวลาที่จัด: เดือนสิงหาคม
ทำไมถึงควรไป: ใกล้จะครบรอบ 50 ปี ของเทศกาลดนตรีที่เก่าแก่ที่สุดเทศกาลหนึ่งของโลก โดยเทศกาลดนตรี Woodstock เป็นเทศกาลดนตรีที่ยิ่งใหญ่ของชาวบุปผาชนหรือชาว ฮิปปี้ โดยสามารถเปลี่ยนโฉมหน้าทางประวัติศาสตร์เทศกาลดนตรีของโลก ถึงแม้ว่าจะหยุดการจัดงานนี้ไปสักพักแล้ว แต่ในอีกไม่กี่ปีข้างหน้าจะครบรอบ 50 ปีของเทศกาลนี้ แว่วๆ มาว่า ทางผู้จัด Michael Lang เริ่มหาพาร์ทเนอร์เพื่อมาลงทุนจัดงานในครั้งนี้แล้ว และในครั้งนี้อาจจัดนอกอเมริกาก็ได้ (อ่านข่าวเต็มได้ ที่นี่)
8. Big Mountain Music Festival
สถานที่: ไม่ระบุแน่นอน
ช่วงเวลาที่จัด: เดือนธันวาคม
ทำไมถึงควรไป: เทศกาลดนตรี มัน..ใหญ่..มาก ของวงกาลดนตรีเมืองไทย ด้วยความมุ่งหวังที่จะสร้างสรรค์เทศกาลดนตรีที่แตกต่างเพื่อสร้างประสบการณ์แปลกใหม่ให้ผู้ร่วมงาน Big Mountain Music Festival จึงมีคอนเซ็ปต์งานที่แปลกใหม่ในทุกๆ ปี และด้วยความที่เป็นเทศกาลดนตรีที่ไม่จำกัดค่ายหรือแนวดนตรี ทำให้กลายเป็นเทศกาลดนตรีที่ได้รับอย่างสูงของคอเพลงชาวไทย
9. Overcoat Music Festival
สถานที่: เขาค้อ จังหวัดเพชรบูรณ์
ช่วงเวลาที่จัด: ธันวาคม
ทำไมถึงควรไป: OVERCOAT MUSIC FESTIVAL เทศดนตรีประจำฤดูหนาวของเมืองไทย ซึ่งจัดติดต่อกันมาเป็นปีที่ 6 แล้ว โดยในปีล่าสุดได้ศิลปินชื่อดังมากมายมาร่วมเวที เช่น แสตมป์ อภิวัชร์, ตู่ ภพธร, Slot Machine, เบน ชลาทิศ, 25 Hours, Jetseter, Palmy, Paradox, พีท พีระ, อพาร์ทเม้นต์คุณป้า & Tabasco, สงกรานต์ & นนท์ (The Voice), Polycat & Summer Stop & จีน กษิดิศ และ BOOM BOOM CASH แค่ได้ชื่อว่าเป็นเทศกาลดนตรีในฤดูหนาวของไทย ก็นึกได้ถึงบรรยากาศความฟินแล้ว
10. Grass Tone Sound Music Festival
สถานที่: นครราชสีมา
ช่วงเวลาที่จัด: ธันวาคม
ทำไมถึงควรไป: เทศกาลดนตรี Grass Tone Sound Music Festival ที่จัดมาถึงครั้งที่ 4 แล้ว โดยงานนี้จัดประจำกันที่นครราชสีมา เมืองย่าโม ในบรรยากาศขุนเขาและสายหมอก ซึ่งถึงแม้ว่าจะจัดท่ามกลางธรรมชาติแต่กลับมีเวทีดนตรีที่ไม่ธรรมดา ทั้ง EDM จากดีเจชั้นนำ รวมถึงเวทีที่ได้ศิลปินอีกกว่า 45 กลุ่มมาร่วมแจม งานนี้แฟนเพลงชาวไทยไปกันได้ง่ายๆ และรับรองว่าคุ้มแน่นอน
บทความที่คุณอาจสนใจ
พลาดไม่ได้ในปีนี้!!! รวม 5 เทศกาลดนตรีรับลมหนาว
Music Truelife อัพเดทข่าวสารวงการเพลงไทยและสากล
ข่าว Gossip พร้อม Scoop เจาะลึกในมุมมองที่น่าสนใจ
และติดตามพวกเราชาว Entertainment Truelife ได้ที่นี่