ล้วงทุกมุมความซื่อ! บูม สหรัฐ หนุ่มตอบตรงพูดตรง กับผลงานเพลงแรกในชีวิต เธอไม่ได้คิดอะไร

สุดเอ็กซ์คลูซีฟ ที่นี่ที่เดียวกับ The Star Idol คนแรกของเมืองไทย บูม สหรัฐ เทียมปาน หนุ่มมากความสามารถที่มีอายุเพียง 18 ปี ที่ไม่ได้มีแค่การร้องเพลง แต่ยังมีความสามารถด้านการแต่งเพลง และการเล่นดนตรีอีกด้วย ซึ่งวันนี้เราจะพาล้วงทุกมุมความซื่อ ความทะเล้นของหนุ่มน้อย พร้อมการทำงานในซิงเกิลแรก ซึ่งเจ้าตัวขี้อ้อนแฟนคลับเป็นอย่างยิ่ง พร้อมเผยว่า 

ซิงเกิลแรกทำงานกับ พี่หนุ่ม กะลา เป็นยังไงบ้าง?
บูม : สนุกดีครับ พี่เขาก็ดีครับ จำได้ว่าอัดเพลงวันแรกเสร็จปุ๊บเขาก็พาไปกินอาหารอีสาน พี่เขาพาไปกินครับ แต่ผมก็ชอบนะครับ ชอบคอหมูย่าง แต่ผมไม่ชอบกินส้มตำเท่าไหร่ พี่เขาก็มีสอนเทคนิคให้ด้วยครับ ผมก็นำไปปรับใช้ อย่างร้องสด พี่เขาบอกว่าร้องให้มันกระชับ ผมก็ร้องตามให้มันคมและกระชับขึ้นครับ 

ตอนแรกที่รู้ว่าต้องร่วมงานกับพี่หนุ่ม กะลา ซึ่งมาเป็นโปรดิวเซอร์ให้เรารู้สึกเกร็งไหม?
บูม : ก็ครับ พี่เขาก็เก่งมาก และด้วยความที่เขาเป็นศิลปินมีกล้ามใหญ่ๆ เขาดูแบบดุๆ ดุดันครับ เลยเกร็งนิดนึง

เป็นยังไงบ้างปล่อยเพลงไปแล้วได้รับพลังจากแฟนคลับเยอะมาก?
บูม : รู้สึกดีครับ แล้วก็รู้สึกว่าผมดูมีคุณค่าขึ้นมาทุกคนรักผม ก็ขอบคุณมากๆ ครับ และก็อยากให้เขารักผมไปนานๆ และผมก็รู้สึกอบอุ่นมากๆ ครับ เวลาเจอกันตามงานอีเว้นท์หรืออะไรแบบนี้ พวกเขาพร้อมที่จะสนับสนุน (เล่าความน่ารักของแฟนคลับหน่อย?) เขาคอยซัพพอร์ทอยู่ตลอดเลยครับ อย่างงานที่ผมไปเล่นแล้วทุกคนต้องจองบัตร แล้วก็มียอดจองบัตรเยอะอยู่พอสมควร แต่ว่าผมติดโควิดจากที่ผมไปทำงานมาครับ งานนั้นผมเลยไม่ได้ไปครับ แต่ว่าแฟนคลับก็ไม่ได้ประท้วงอะไรขนาดนั้นครับ ก็คือเขาเข้าใจทุกคนเลยครับ เขาก็แบบว่าเอาบัตรของผมไปขายแฟนคลับศิลปินที่จะมาแทนผม เขาไม่ได้ขอเงินคืนจากงานด้วย เป็นแบบนั้นมากกว่าครับ ก็น่ารักมากเลยครับ 

เคยคิดมั้ยว่าจะได้พลังจากแฟนๆ เยอะขนาดนี้?
บูม : ไม่เลยครับ ตอนแรกที่มาร้องเพลงก็คิดแค่ว่าอยากมาร้องเพลงให้คนฟังเฉยๆ อยากรู้ว่าเขาจะชอบในเสียงหรือเปล่า เพราะเวลาผมไปไหนก็ไม่ได้ดูเหมือนถูกพูดถึงนะครับ ผมก็จะเป็นคนหนึ่งที่แบบว่าร้องเพลงแล้วก็จบไปนะครับ ก็เพิ่งแบบมีคนชอบขนาดนี้

เพลง ถ้าเธอไม่ได้คิดอะไร เป็นสไตล์ของบูมเลยมั้ย?
บูม : ก็เป็นนะครับ แต่เอาจริงๆ สไตล์ของผมผมยังไม่รู้เลยว่าจริงๆ แล้วเป็นสไตล์ไหนกันแน่ แต่คิดว่าด้วยเพลงนี้มาจากประสบการณ์ของผม เลยน่าจะเป็นตัวตนของผมได้ครับ บวกกับเสียงร้องและวีธีการร้อง 

การที่เราเข้าห้องอัดจริงๆ กับการร้อง COVER ที่เราเคยทำมันยากง่ายแตกต่างกันยังไง?
บูม : ก็แตกต่างครับ เพราะเวลาผมอัดร้องเพลงที่บ้าน ไมค์ผมจะไม่มีขาตั้งไมค์ แต่พอไปห้องอัดแล้วมันมีไมค์ให้ มันห้อยได้ ห้องผมมันก็จะแคบๆ มันก็จะร้อนๆ นิดหนึ่ง แต่ห้องอัดมันเย็นกว่า

แล้วการร้องยากกว่ามั้ย เพราะว่าถ้าเข้าห้องอัดจะมีคนคอยคุมด้วย?
บูม : มันก็มีความยากครับ เพราะมีศิลปินแบบพี่หนุ่ม กะลา นะครับ กับทีมของเขาอยู่ข้างหน้าห้องอัด และทีมของเขาก็คอยจับจ้องเราอยู่เวลาเราร้องเพลงครับ มันก็มีความเกร็งๆ นิดนึงครับ แต่ว่าชินแล้ว (กว่าจะได้เพลงออกมาให้แฟนๆ ได้ฟังกันอัดอยู่นานไหม?)  อัดอยู่ประมาณ 3 ชั่วโมงครับ 

เพลงที่ออกมาเราได้ใส่ไอเดียวของเราไปบ้างมั้ย?
บูม : มีท่อน Rap ครับ แล้วก็ท่อนหลังสุด แล้วก็เคยลองใส่ไอเดียการร้องของผมเข้าไปครับ แต่ว่ามันไม่ผ่าน ซึ่งพอผมอยากใส่ท่อนจองผมลงไป ผู้ใหญ่บอกว่าจริงๆ เพลงี้ท่อนฮุกมันมีน้อย มันมีแค่สองรอบ ก็คือเราต้องร้องให้เหมือนกันทั้งหมด 2 รอบครับ เพราะถ้าร้องแตกต่างกัน เดี๋ยวคนเขาจะไม่จำว่าท่อนฮุกมันร้องยังไงกันแน่ 

ท่อน  Rap ที่แต่งเป็นยังไงบ้าง?
บูม : มาคิดได้ตอนที่เข้าห้องน้ำครับ พอเขียนไปแล้วผ่านผมก็รู้สึกครับ เพราะจริงๆ แล้วในรายการผมก็ร้องท่อน Rap ที่ผมแต่งเอง มันก็คล้ายๆ กับความรู้สึกที่ไปร้องในรายการครับ เหมือนความรู้สึกเดิม (จริงๆ แล้วชอบดนตรี Rap หรือเปล่า?) คือจริงๆ ก็ไม่ได้ Rap อะไรขนาดนั้นนะครับ ถ้าให้พูดจริงๆ ผมก็ไม่ใช่ Rapper เลยครับ และตัวผมเองก็ไม่น่าจะใช่ครับ จริงๆ แล้วผมน่าจะชอบดนตรีแบบป๊อบๆ เท่ๆ แล้วก็อาจจะมี Rap บ้างนิดหน่อย เป็น Rap แบบเมโลดี้ครับ 

เพลงมีกลิ่นอายดนตรียุค 80 ด้วย ทำไมถึงหยิบมาใช้?
บูม : อันนี้ผมก็ไม่รู้เหมือนกันครับ จริงๆ แล้วถ้าไม่มีคนคอมเมนต์ว่าเหมือน80 ผมก็ไม่รู้ว่ามันเป็น80 ผมก็มองว่ามันเป็นดนตรีเพราะๆ อันหนึ่งครับ (พอเรารู้ว่ามันเป็นดนตรียุค80เราได้ย้อนไปฟังมั้ยว่าดนตรียุค80มันเป็นยังไง?) โอ้..ไม่เลยครับ แต่พอเขาบอกกันว่ามันยุค80 ผมก็พอนึกได้เพลงเก่าๆ ที่ผมเคยฟังมา มันก็แบบแนวๆ นี้ พอนึกได้ปุ๊บก็อ๋อ แนวๆ นี้ครับ 

การถ่ายทำมิวสิควีดีโอเพลง ถ้าเธอไม่ได้คิดอะไรเป็นยังไงบ้าง?
บูม : สำหรับบรรยากาศก็ทุกคนตั้งใจมากครับ เป็นแบบกองถ่ายแบบใหญ่เลย มีนักแสดงเยอะมาก แล้วก็มีเพื่อนๆ ผมด้วยที่ไปร่วมเล่น มีตั้งต้น บอส จาก LAZiCON แล้วก็มีแม็กดรอป พี่เพลง จากเดอะสตาร์เหมือนกัน แล้วก็มีพี่หนุ่ม กะลาด้วยครับ ผมมาในกองตั้งแต่บ่ายโมง แต่ผมเริ่มถ่ายตอน 5 ทุ่มซีนแรก แต่ว่าระหว่างนั้นผมก็คอยไปแบบป่วนๆ เพราะผมต้องถือโทรศัพท์สัมภาษณ์คนนู้นคนนี้ไปเรื่อยๆ ครับ (หัวเราะ) แล้วก็ไปถ่ายพี่ขุนพล แบบแกล้งๆ พี่เขา 

แสดงว่าในกองแต่ละคนมาร่วมถ่ายทำมิวสิควีดีโอเป็นกันเองมาก?
บูม : ใช่ครับ ก็ไม่ได้เกร็งไม่ได้อะไร ก็เป็นกันเองดีครับ 

ส่วนตัวบูมเอง ยากมั้ยเพราะอาจจะเป็นการแสดงครั้งแรกด้วย?
บูม : จริงๆ ในตัว MV ผมก็แค่ซิงเพลงเฉยๆ ขยับปากเอา ร้องไปตามเพลง ส่วนตัวผมไม่ได้แสดงอะไรมากครับ และใน MV ก็มีนักแสดงอยู่แล้ว มีพระเอกนางเอกมีครูมีนักเรียนอยู่แล้วครับ 

กดดันมั้ยพอรู้ว่าเราจะต้องถ่ายทำMVร่วมกับคนเยอะๆ?
บูม : ผมก็ไม่ได้รู้สึกกดดันอะไรนะครับ ผมอยากให้ถึงวันถ่าย MV เร็วๆ มากกว่า เพราะว่าอยากเห็นผลงานออกมาเร็วๆ ครับ ผมรู้สึกสนุกมากกว่าครับ 

จากเด็กธรรมดาสู่นักร้องศิลปินเต็มตัวเรารู้สึกยังไงบ้างกับคำนี้?
บูม : จริงๆ มันก็รู้สึกเท่นะครับ ในIG ผมก็กล้าตั้งว่าเป็น arctic ได้อย่างเต็มปากเต็มคำ เวลามีใครมาส่องรู้สึกว่ามันเท่ดีครับ แต่ปมก็ยังคงปฏิบัติตัวแบบบูมคนเดิมอยู่นะครับ แต่แค่อาจจะใช้คำว่าศิลปินได้แบบเต็มปากหน่อยครับ 

ตอนนี้มีเพลง มีMV และมีแฟนคลับแล้ว ชีวิตเปลี่ยนไปมั้ย เพราะเมื่อก่อนอาจจะเป็นแค่เด็กธรรมดาๆ คนหนึ่ง?
บูม : จริงๆ มันไม่ได้เปลี่ยนอะไรขนาดนั้นครับ เพราะมันแค่เปลี่ยนไปว่ามีคนรักเพิ่มขึ้น แล้วก็ได้ทำในสิ่งที่ตัวเองชอบมากขึ้นด้วยครับ ซึ่งมันก็สนุกดีด้วยครับ เพราะพอมีเพลงแรกแล้วรู้สึกเท่ดีด้วยครับ ดูแบบแอคสาวได้ 

ยอดวิวบน Youtube ตอนนี้เกิน 1 ล้านวิวไปแล้วรู้สึกยังไงบ้าง?
บูม : ยังไม่ถึงที่คาดหวังครับ ผมคาดหวังไว้ 1หมื่นล้านวิว พูดเล่นๆ (หัวเราะ) เกินๆ คาดครับ เกินคาด จริงๆ แล้วหวังไว้แค่เกินแสนวิวก็ดีใจแล้วครับ แต่พอมาถึงเกินล้านวิว (ได้ชื่อว่าเป็นนักร้องล้านวิวแล้ว?) ก็เท่ดีครับ 

ครอบครัวว่ายังไงบ้างหลังจากที่เราได้รางวัล The Star Idol คนแรก พร้อมมีซิงเกิลแรกเป็นของตัวเองแล้ว?
บูม : เขาก็ดูภูมิใจครับ ผมดูหน้าพวกเขาแล้วเขาก็ดูภูมิใจครับ แต่ว่าเขาก็อาจจะไม่ได้พูดอะไรขนาดนั้น ผมรู้สึกได้ครับ 

เพื่อนๆ ว่ายังไงบ้าง พอเราได้เป็นศิลปินแล้ว?
บูม : ก็มีแซวๆ ครับ และมีคนหนึ่งครับ ที่เป็นเพื่อนสนิทครับ ฟังเพลงผมมันก็บอกว่ามันร้องไห้เลย มันภูมิใจมาก 

แบ่งเรื่องงานกับเรื่องเรียนยังไง เพราะตอนนี้เราก็ยังเรียนอยู่ด้วย?
บูม : ผมก็พยายามถ้าวันไหนผมไม่ได้ทำงานผมก็จะ เข้าห้องเรียนครับเรียนออนไลน์ครับ ก็จะเข้าห้องเรียนออนไลน์ และก็พยายามเคลียร์งานส่งครับ (ต้องปรับตัวเยอะมั้ยเพราะปกติก็ไม่ต้องแบ่งเวลามาทำงาน?) ก็ปรับตัวเยอะอยู่เหมือนกันนะครับ เพราะจากปกติผมก็นั่งเรียนอย่างเดียว และผมก็ไม่ได้มีงานอัดๆ แบบนี้ทำเลย แต่พอเข้ามาในรายการเดอะสตาร์แล้วก็แบบเอาเวลาเรียนลดลง แล้วก็มาเดอะสตาร์มากขึ้น ผมเลยรู้สึกว่าจริงๆ แล้ว มันก็เป็นเรื่องดีสำหรับผมนะครับ เพราะว่าผมก็ขี้เกียจเรียนเหมือนกัน (หัวเราะ) แต่ว่าช่วงนี้ผมก็กำลังเตรียมตัวเข้ามหาวิทยาลัยอยู่ 

เป็นยังไงบ้างกับการเตรียมตัวเข้ามหาวิทยาลัย?
บูม : ตอนนี้ผมก็สอบติดแล้วนะครับ มหาวิทยาลัย มศว. ครับ เอกการแสดงและกำกับการแสดงภาพยนตร์ นวัตกรรม ผมก็สอบติดไปแล้วครับ แต่ผมต้องไปเน้นภาษาอังกฤษหน่อย เพราะว่าคณะนั้นต้องใช้ภาษาอังกฤษเยอะมาก ผมไม่รู้ว่าผมจะโดนไล่ออกหรือเปล่า (หัวเราะ)  

ตอนสอบมีการเตรียมตัวสอบยังไงบ้าง?
บูม : ผมก็ไปดูว่าเขาให้สอบอะไรยังไงบ้าง แล้วก็เตรียมตัวหาบทแสดง แล้วก็ไปหาข้อมูลเพิ่มเกี่ยวกับคณะนั้นๆ ครับ เพราะว่าพอเขามาถามอะไรเรา เราจะได้ตอบได้ครับ แต่ตอนแรกคิดว่าไว้ว่าจะศิลปกรรม (เปลี่ยนเพราะอะไร?) ผมเปลี่ยนจากศิลปกรรมมาเป็นนวัตกรรม เพราะว่ามีคนหนึ่งเขาบอกว่าตัวผมอาจจะเหมาะกับนวัตกรรมมากกว่า เพราะศิลปกรรมเอกกำกับละครเวทีผมตั้งใจจะเข้าที่นั้น เพราะคิดว่าจะสนุกครับ เพราะทำละครเวทีก็เลยอยากลองครับ แต่ว่าพอผมมาเข้านวัตกรรม พอผมจบไปผมอาจจะได้ทำงานในด้านการกำกับภาพยนตร์หรือทำอะไรได้หลากหลาย ทำงานรายการหรือพิธีกรอะไรก็ได้ครับ เพราะคณะนี้น่าจะตรงกับสายงานที่ผมทำอยู่ในปัจจุบันมากๆ ครับ 

นอกจากงานร้องเพลงแล้วอยากทำอะไรอีกมั้ย?
บูม : อยากเปิดร้านอาหารครับ แต่ผมไม่มีหัวในด้านธุรกิจเท่าไหร่ ร้านหมูกระทะอะไรแบบนี้ครับ แต่จริงๆ ผมก็ไม่ใช่คนชอบทำอาหารนะครับ ขี้เกียจล้างจาน แต่ว่าอยากมีร้านอาหารเป็นของตัวเอง เพราะว่าเราอยากร้องเพลงในร้านอาหารของเรา ได้ไม่ต้องไปจ้างนักดนตรี (แล้วเรามีโอกาสได้ร้องตามร้านต่างๆ หรือยัง?) ยังเลยครับ ผมอยากไปร้องมากๆ เลย อยากมากๆ เลย จริงๆ ร้านไหนก็ได้ผมอยากจะขอไปร้องซักเพลงหนึ่ง แต่ผมไม่รู้ว่าเขาจะกลัวโควิดจากผมหรือเปล่า 

ตอนนี้ถือว่าเราต้องปรับตัวเยอะมั้ย?
บูม : ปรับตัวเยอะเลยครับ เวลาไปไหนก็ต้องระมัดระวังโควิดด้วยเพราะว่าถ้าติดไปปุ๊บงานก็จะเสีย คือผมเคยติดไปแล้วผมก็ไม่อยากจะมาติดอีกรอบนึงครับ แล้วก็ต้องเอาใจแฟนคลับด้วยครับ พยายามพัฒนาตัวเองตลอดเวลา เพื่อที่จะได้ดูดี และเพื่อที่จะได้มีผลงานที่มีคุณภาพออกมาให้ทุกคนได้ติดตามนะครับ ไม่ใช่แค่แฟนคลับนะครับ ให้ทุกๆ คนที่ได้เห็นผลงานผมนะครับ 

อย่าตอนนี้ด้วยสถานการณ์โควิดแฟนๆ เข้าใจมั้ยเวลาเจออาจจะเข้าใกล้ไม่ได้?
บูม : แฟนๆ เข้าใจมากครับ อย่างเขาจะให้ของผมเขาก็เอาแอลกอฮอล์มาฉีดมือ แต่ว่าเขาเอาทิชชู่ที่ซับเหงื่อผมไปนะครับ แต่ว่าเขาไม่กลัวโควิดจากผมเลยนะครับ (หัวเราะ) 

นอกจากเพลงซิงเกิลนี้แล้วจะมีผลงานอะไรอีกมั้ย?
บูม : เดี๋ยวจะมีผลงานเพลงออกมาเรื่อยๆ ครับ และเดี๋ยวจะมีเพลงละครครับ เวลากามเทพครับ ได้ร้องเพลงละครก็รู้สึกดีครับ ผมไปขอพี่ผู้ใหญ่คนหนึ่งผมบอกว่าให้ผมร้องเพลงละครซักเรื่องจะเป็นบุญกับผมบ้าง ถือซะว่าทำบุญทำทานให้ผมได้ร้องเพลงละคร 

อยากฝากบอกอะไรกับแฟนๆ ไหมเพราะมาถึงตรงนี้ได้ก็เพราะแฟนๆ ด้วยส่วนหนึ่ง?
บูม : ก็ต้องขอขอบคุณมากๆ เลยครับ ไม่รู้จะตอบแทนอะไรยังไงเลยครับ ก็ได้แต่ส่งผลงานดีๆ กลับไปให้แฟนๆ ได้ชมกันครับ เพราะจริงๆ แล้วถ้าไม่มีทุกๆ คนผมก็คงไม่มานั่งสัมภาษณ์อยู่แบบนี้ครับ ก็ต้องขอขอบคุณมากๆ เลยครับ แล้วก็ขอให้เป็นแบบนี้ไปนานๆ เลยนะครับ 

ฝากผลงาน?
บูม : ผมฝากผลงานด้วยนะครับ ผมชื่อบูม สหรัฐ นะครับหรือว่า บูม The Star Idol ถ้าเจอเพลงผมที่ไหนก็หยุดฟังได้ หรือว่าถ่ายคลิปมาฝากกันได้นะครับ ก็เพลงแรกของผมชื่อว่าเพลง ถ้าเธอไม่ได้คิดอะไร นะครับ ก็ถูกปล่อยออกไปแล้วนะครับ แล้วก็จะมีเพลงประกอบละครเวลากามเทพนะครับ แค่นั้นก็มากพอ นะครับ และก็จะมีเพลงานเพลงในอนาคตอีก ไม่แน่ใจว่าอีกกี่เพลง แต่ก็จะทยอยปล่อยออกมาให้แฟนๆ ได้ติดตามกันครับ 

ฟังเพลงออนไลน์ เพลงใหม่ ได้แล้ววันนี้บน TrueID ทั้ง เว็บไซต์ และ แอปพลิเคชัน

อ่านข่าวอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง : 

• ประสบการณ์ตรง! “บูม สหรัฐ” กับเพลงแรกในชีวิต “ถ้าเธอไม่ได้คิดอะไร” หนุ่ม กะลา ทำหน้าที่โปรดิวซ์ (มีคลิป)