เปิดใจ ไก่ จันทร์จวง น้องสาวของของราชินีลูกทุ่ง พุ่มพวง ดวงจันทร์ เปิดคำพูดสุดท้ายก่อนจากลา
วันที่ 13 มิถุนายน ของทุกปี เหล่าพี่น้อง ลูกหลาน ในวงการเพลงลูกทุ่งไทย จะจัดงานรำลึกให้ราชินีลูกทุ่ง พุ่มพวง ดวงจันทร์ แต่เพราะปีนี้มีการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ทำให้งดการจัดงานรำลึกครบ 28 ปีของการจากไปของ ราชินีลูกทุ่ง ที่ลาลับ จากแฟนเพลงไปอย่างไม่มีวันกลับ ณ วัดทับกระดาน จังหวัดสุพรรณบุรี ซึ่งน้องสาวคนสนิทที่ พุ่มพวง เรียกว่า ลูกสาว ไก่ จันทร์จวง ดวงจันทร์ ที่มาเยือนรายการ ต้มยำอมรินทร์ ผลิตโดย CHANGE2561 ได้กับนำบทเพลง รำพึง มาขับร้องซึ่งเพลงนี้ ไก่ จันทร์จวง แต่งขึ้นเอง เป็นเพลงแรกในชีวิตถึงพี่สาวสุดที่รัก พร้อมเผยว่าในทุกวันนี้ไม่ว่าเวลาจะผ่านไปกี่ปีก็ยังคงรู้สึกว่า พี่ผึ้ง พุ่มพวง อยู่ข้าง ๆ ตลอด และไม่ว่าไปไหน ตัวเองก็จะพกกระดูกของพี่สาวติดตัวไปด้วยทุกที่ พร้อมกับแจ้งข่าวดีว่า จะมีการจัดคอนเสิร์ตไลฟ์สดครบรอบรำลึก 28 ปี เพื่อราชินีเพลงลูกทุ่งอีกด้วย
ไก่ จันทร์จวง : ถ้าพูดถึงว่ารู้สึกเขามาหาไหม เรารู้สึกว่าเขามาหาตลอด เพราะเราไปไหนก็จะติดกระดูกของเขาติดตัวไปตลอด เวลาที่เราไปงานหรือไปไหน เป็นกระดูกส่วนหัวที่เราเอามาเลียมเป็นชิ้นเล็กๆติดตัวไว้ พี่ผึ้ง เคยถามเราก่อนที่เขาจะเสียว่า ไอ้ไก่ถ้าพี่ตายจะกลัวมั้ย เราก็บอกเขากลัวสิ เขาก็บอกเราว่าจะกลัวทำไมฉันไม่มาให้นั้นหรอก ฉันมาสวย ฉันมาสวยอยู่แล้ว เราก็เลยบอกมาสวยฉันก็กลัว
ไก่ จันทร์จวง : แล้วก็มาจริงๆมาวันแรกไม่สวยแต่ไม่ได้เห็นค่ะ แต่มาเป็นเสียง คือ เรียก จิตไปตรงกับตอนที่เรารดน้ำศพเสร็จ เราก็บอกไม่ต้องมาหาหนูนะ อย่ามาให้หนูเห็นนะหนูกลัวกลับมาก็นอนรวมกัน มือยังติดน้ำอบอยู่เลย ก็ตื่นมาตอนตี 2 ตี 3 หมาก็หอน เราก็ได้ยินเสียงเดิน ได้ยินหมดเป็นเสียงที่พี่ผึ้ง ทำบางคนบอกว่าฝันหรือเปล่า ไม่เลยค่ะ ลืมตาอยู่เหงื่อแตกเต็มไปหมดเลยตอนนั้น มาเป็นเสียงนี้เลย ไก่ เราก็ว่าเราหูแว่วแล้วก็เรียกอีก ไก่ลุก ใครจะลุกล่ะ เราก็สะกิดพ่อ พ่อลุกพี่ผึ้งมาทุกคนก็ลุกกันหมดแล้วก็เปิดไฟ แล้วอีกวันเราก็ไปบอกพี่ผึ้งอีก พี่ผึ้ง หนูกลัวจริงๆมาหาก็มาเข้าฝันได้มั้ย ก็มาจริงๆเวลาเดิมเลยเหมือนเราจิตผูกพันอยู่กับเขาคนเดียว เหมือนเขาเลือกอ่ะแต่เราก็ตาขาว
เหมือนคนที่สนิทกันมาก ๆ เหมือนแค่เสียงเดินหรือทำอะไรจะรู้หมดว่าเป็นคนนี้
ไก่ จันทร์จวง : รู้หมดค่ะ เพราะพี่ผึ้ง ไม่เดินไว ไม่พูดเร็ว พี่ผึ้ง จะพูดช้าๆนิ่มๆ ส่วนเราจะเร็วๆ วันที่สองคือเค้าไม่ได้มาเรียกเรา แต่เห็นเลยเขามานั่งที่เก้าอี้โยก เขานั่งแล้วร้องไห้ เห็นเลยเราก็กล้าหาญแล้วไงนอนกลางพ่อ เราก็สะกิดพ่อ พอหันกับมาก็ไปล่ะ วันที่สามก็มาเรียกพ่อ
ชุดลายเสือ ถือว่าเป็นโลโก้ หรือเอกลักษณ์ของครอบครัวเลยไหม
ไก่ จันทร์จวง : จริง ๆ ชุดนี้ได้มาจากวัดทับกระดานมีคนเขาเอามาให้พี่ผึ้ง ในทุกๆปีเราก็ไปดูของที่แฟน ๆ เขามาแก้บน เอาของมาแก้บนเป็นชุดที่พี่ผึ้งเขาเลือกเองอยู่ในซอกให้มุม ก็ไปเปลี่ยนที่บ้านแม่
ไก่ จันทร์จวง : คือจะบอกว่ายังไงดีที่บ้านแม่จะมีอยู่สองหุ่น คือ จะบอกว่าชุดที่พี่ผึ้งเขาเลือกเอง คือ มันไม่น่าจะเป็นไปได้ไปเจอที่อยู่ในมุมที่แบบไม่น่าจะเจอได้ แล้วเราก็ไปดึงในตู้แล้วมัดอยู่แบบในมุมที่ลึกมากมันก็มีชุดอยู่ในนั้น แล้วเราก็เอาชุดที่เราเจอไปใส่หุ่นที่อยู่บ้านแม่เราคือ ก็ใส่ได้พอดีเลยเป็นแบบนี้ทุกปี มีคนเขาเอามาให้ในหนึ่งปีทางวัดเขาก็จะเอาไปเก็บไว้ในตู้ในมุมแล้ว 1 ปี เราก็จะไปดูเสื้อผ้าที่เขามาเอาเผื่อนำไปประมูลขายนำรายได้เข้าวัดปีละครั้ง
ทุกวันที่ 13 มิถุนายนของทุกปีก็จะจัดงานใหญ่มาก
ไก่ จันทร์จวง : ใช่ค่ะ ต้องบอกว่าเป็นสิ่งที่ทุกคนไม่คาดคิดนะคะ ต้องบอกเลยว่างานพี่ผึ้งไม่จัดไม่ได้ แฟนเพลงจัดให้ทุกปี อย่างปีนี้พอรู้ว่าไม่ได้จัดแฟนเพลงก็จะถามว่าทำไม คือ เขาชื่นชอบเขาศรัทธาเขารัก อยากดูเหมือนเป็นงานประจำปีเพื่อระลึกถึงไปแล้วทุกปี จนกลายเป็นครอบครัวของเราไปแล้ว
ไก่ จันทร์จวง : งานครบรอบทุกๆวันที่ 13 ไม่ใช่แค่จัดคอนเสิร์ตอย่างเดียวนะคะ ตอนเช้ามีทำบุญ แล้วก็เรายังได้มีการแจกทุนนักเรียนจากเงินบริจาคสนับสนุนที่ทางแฟนๆให้มาด้วยค่ะ
แต่ปีนี้ไม่มีจัดงานรำลึก แต่ไม่ใช่ว่าไม่ทำอะไรเลย
ไก่ จันทร์จวง : ทางครอบครัวเราทำเล็กๆค่ะ เป็นการทำบุญ ถ้าเมื่อก่อนแม่ยังอยู่แม่ก็จะทำบุญของแม่ทุกปี แต่แม่ไม่อยู่แล้วก็ให้น้องชายจัดการทางโน้นไป ส่วนพี่อยู่ที่กรุงเทพฯ เดี๋ยวดูว่าเราจะทำเล็กๆในบ้านดี หรือจะไปที่วัด หลายคนมองว่าทำไมเราไม่ไปทำที่วัดทับกระดาน เรากลัวค่ะ ว่าจะควบคุมไม่ได้เดี๋ยวจะกลายจากงานบุญเป็นดราม่าในช่วงนี้ เพราะยังอยู่ในสถานะการณ์แบบนี้เลยขอจัดเล็กๆไปก่อนค่ะ
แต่ว่านอกเหนือจากจัดทำบุญภายในครอบครัวแล้ว ทางพี่ไก่ และพี่ๆน้องๆจะจัดกิจกรรมพิเศษ
ไก่ จันทร์จวง : ก็ได้คุยกับน้องๆค่ะ ว่าวันที่ 13 มิถุนายน ซึ่งตรงกับวันเสาร์ด้วย อาจจะมีพิเศษคือ ไลฟ์สดร้องเพลงกันในวันนั้นผ่านช่องทางไหนค่ะ เฟสบุ๊ค จันทร์จวง ดวงจันทร์ เลยค่ะ
ถึงจะลาจากไปนานถึง 28 ปี แต่ผลงานเพลงและความดีของราชินีลูกทุ่งพุ่มพวง ดวงจันทร์ ไม่เคยหายไปจากใจแฟนเพลงเลย แถมยังเป็นแม่แบบของนักร้องลูกทุ่งในทุกๆรุ่นอีกด้วย ซึ่งงานนี้ ไก่ จันทร์จวง ยังได้เล่าย้อนถึงไทม์ไลน์ความลับของราชินีลูกทุ่ง และ คำพูดวินาทีสุดท้ายก่อนที่ พุ่มพวง ดวงจันทร์ จะจากไป พร้อมความในใจถึงพี่สาวสุดที่รัก
ไก่ จันทร์จวง : *** ฉันจะต้องเป็นพุ่มพวงทุกชาติ พูดอยู่อย่างนี้จนเช้า ***
ไก่ จันทร์จวง : เราเข้าใจในสิ่งที่พี่ผึ้ง ต้องการคือกว่าที่เขาจะมาเป็น พุ่มพวง วันนี้ เขาเหนื่อย ต้องแลกกับทุกสิ่งทุกอย่าง ความอดทน ที่ผู้หญิงคนหนึ่งที่จะเป็น พุ่มพวง ดวงจันทร์ ได้อย่างเราเนี่ยเราไม่ต้องเหนื่อยอะไรเลย พี่ผึ้ง ปูทางให้เราได้เดินสบายแค่เราทำให้คนยอมรับ แฟนเพลงยอมรับเราให้ได้เท่านั้นเอง แต่พี่ผึ้ง เนี่ยเค้าสร้างด้วยตัวเขาเองทุกอย่างเลย แล้วตอนที่เขาเสียเขาอายุแค่ 31 เอง มันน้อยมาก *** เขาไม่ให้ใครเขาไม่ให้ความดังกับใคร เขาไม่ต้องการให้ใครมาเป็น พุ่มพวง แทนเขา เพราะพี่ผึ้ง มาจากพรสวรรค์ และสแวง คือ พรสวรรค์ก็เยอะ พรแสวงก็มาก พรสวรรค์ของเขาคือ เขาไม่ได้เรียนหนังสือแต่จำทุกอย่างได้ แต่พรแสวงคือ เขาพยายามเรียนรู้ จำ จากคนที่เก่งกว่าเขา มันเป็นความภาคภูมิใจที่มันอยู่ใน พุ่มพวง ดวงจันทร์ เขาถึงไม่อยากจะสูญเสียมันไป ***
ไก่ จันทร์จวง : ไก่ห่างจากพี่ผึ้ง 11 ปีเลยค่ะ ตอนนั้นจำได้เลย ตอนนั้นเราเข้ามากับพี่ผึ้งอยู่ซอย วัดดงมูลเหล็ก เป็นบ้านเช่า บ้านไม้ เราเรียก พี่ผึ้ง ว่าแม่ๆตลอดตอนเด็กๆ คือเราไม่ค่อยคิดว่าพี่ผึ้งเป็นพี่ เพราะตอนเด็กๆแม่มีลูกเยอะแล้ว พี่ผึ้ง เข้ามาร้องเพลงในวงพ่อไวพจน์ แต่ยังไม่ดังตอนนั้นแบ่งเบาเอาน้องๆมาเลี้ยง มาดูแลก่อน ก่อนจะเข้าโรงเรียน
เป็นคนที่คุณพุ่มพวงไว้ใจมากที่สุด
ไก่ จันทร์จวง : คือพี่ผึ้ง เป็นคนที่หวงของ เป็นคนที่เกิดถ้าไม่สนิท แม่บ้านที่ไว้ใจได้เขาจะไม่ให้หยิบของเลย เพราะว่าเขารักของเขาทุกชิ้น พี่ผึ้ง จะบอกเสมอว่าของแต่ละชิ้นที่เขาได้มาเขาเหนื่อยกว่าจะได้มา ทุกสิ่งที่เป็นของเขา เขารักมาก ฉะนั้น !! เราอยู่กับพี่ผึ้ง เนี่ยเราก็คอยเก็บที่นอนให้เขาที่นอนต้องเป๊ะ เตรียมอาหารอะไร ตอนพี่ผึ้งเข้าห้องแต่งตัวเราต้องไปคอยดูคอยตอบนะว่า พี่ผึ้ง ต้องการอะไร ของตรงนี้อยู่ไหนบางทีเราก็ตอบไม่ได้เพราะว่ามันเยอะมาก เสื้อผ้าห้ามแขวน อันนี้ห้ามพับ แบบรายละเอียดยิบย่อยมาก ผึ้ง เป็นคนละเอียดมากเลยเป็นโชคดี ของเราที่ได้อยู่ใกล้ พี่ผึ้ง เลยติดความระเบียบที่ได้มาจากพี่ผึ้ง
ไก่ จันทร์จวง : พี่ผึ้งเป็นคนที่วาดรูปสวยมาก แล้วก็สเก็ตภาพเกี่ยวกับชุดที่ใส่ในวงสวยมาก การที่จะไปต่างประเทศ คือ ตอนนั้นเราไม่มีกล้อง ไม่มีมือถือ ฉะนั้น !! ทุกอย่างจะอยู่ในความทรงจำทั้งหมด พี่ผึ้ง จะใช่ระบบจำอย่างเดียวแล้วกลับมาวาดแล้วนำไปตัดเป็นชุดแดนซ์เซอร์ทั้งหมด เขาออกแบบเอง ถ้าตัดเสร็จต้องให้เขาลองก่อน
ไก่ จันทร์จวง : พี่ผึ้ง เป็นคนรักสวยรักงาม พี่ผึ้ง มองว่าบางชุดมันมีชุดชั้นใน กางเกงมันออกมาเขาเห็นว่ามันไม่ควร เขาจะลองใส่ให้ดูก่อนว่สเป็นแบบนี้ ถ้าใส่ออกมาไม่สวยไม่เหมาะสมเขาก็ไม่ให้ใส่ คือ ชุดที่พี่ผึ้งใส่จะไม่โป๊เกินไป จะแบบใส่แล้วเหมาะสม
พี่ผึ้ง เป็นคนที่แฟชั่นมากช้อปปิ้งหนักมาก
ไก่ จันทร์จวง : ใช่ค่ะ คือ ต้องบอกว่าพี่ผึ้ง เป็นคนที่ทำงานหนักมาก ยิ่งเป็นช่วงเทศกาลคือ วิ่งงานสว่างคาตาไม่มีวันพัก ซึ่งถ้าพี่ผึ้ง ได้พักคือ เดินห้างได้เดินซื้อของ อย่าง ผ้าขนหนู ชุดชั้นใน ได้เดินซื้อของ เครื่องสำอางค์บ้าง แต่ส่วนมากเขาไปดูที่ต่างประเทศ เพราะว่าตัดชุดทีก็ 3-4 หมื่น เมื่อสมัยก่อนและร้านที่ตัดก็เป็นร้านแฟชั่น ร้านประจำตัวของเขา พี่ผึ้ง พูดตลอดเวลา ฉัน ไม่ใช่คนสวย ฉันไม่ได้เกิดมาแล้วตื่นมาหน้าฉันเป๊ะ ฉะนั้น !! ทุกอย่างต้องพร้อมหมด คือ ชุดของพี่ผึ้ง ไม่ได้อลังการ แต่ต้องเท่ห์ เปลี่ยนจากอันนี้ ไปใส่กับอันนี้ได้ พอถ้าใส่สัก 2-3 ครั้งแล้วคนจำได้ ก็จะไปให้ช่างเอาอันนี้ออกจากตัวนี้ไปใส่ตัวนั้น
ตอนที่ พี่ผึ้ง ป่วยเรารู้ล่วงหน้ามั้ย
ไก่ จันทร์จวง : มีทั้งหลอกตัวเอง และทำใจไว้ล่วงหน้าที่พี่ผึ้ง ป่วย ณ วันนั้นนะ เพราะพี่ผึ้ง เขามีลูกเขาห่วง ด้วยสภาพร่างกายของเขาทานยาเยอะมาก แต่ถึงร่างกายของเราจะแย่ยังไงแต่จิตใจของเราเข้มแข็งก็จะผ่านไปได้ แต่ร่างกายของเขามันหนักหนาสาหัสมมาก
ถ้าอยากจะบอกอะไรกับพี่ผึ้งอีกสักครั้งหนึ่งพี่ไก่ อยากจะบอกอะไร
ไก่ จันทร์จวง : คือ อยากจะบอกว่าเป็นคนที่โชคดีมากๆที่ได้เกิดมาเป็นลูกของพ่อแม่ และได้เกิดมาเป็นน้องของ พุ่มพวง ดวงจันทร์ มันไม่มีใครโชคดีเท่าเรา สิ่งหนึ่งที่เราภูมิใจก็คือ 28 ปีที่เราสูญเสียไปก็ยังมีความรัก ความศรัทธาเพิ่มเป็นทวีคูณ เพราะพี่ผึ้ง เป็นคนดี คนดีที่เป็นตัวอย่างให้กับเด็กรุ่นใหม่ ไม่ว่าเป็นเป็นบทเรียนชีวิต การดำเนินชีวิต สิ่งหนึ่งที่พี่ผึ้ง สอนเสมอคือ การกตัญญู ถ้าย้อนเวลากลับไปได้อยากจะลืมตาตื่นมาคุยกับเขาวันที่เขาเรียกเราตาขาวเกินไป ถ้าย้อนเวลากลับไปได้เราคงจะได้คุยกับเขา เขาคงจะอยากบอกอะไรเรากับสิ่งที่เขาเจอมา อยากจะฝากอะไรเรา สิ่งหนึ่งที่เขาห่วงมากเลยคือ พ่อกับแม่
จันทร์จวง ดวงจันทร์ ร้องเพลง รำพึง
อัพเดทข่าวสารวงการเพลงไทยและสากล พร้อม Scoop เจาะลึกในมุมมองที่น่าสนใจ ติดตาม Music.trueid.net ได้อีกช่องทางที่ TrueID App หรือร่วมพูดคุยกันผ่านทาง Line @TrueID