วิน รัตนพล - ดาต้า ดรัลชรัส - ปอ ธีรวัฒน์ แสดงความจงรักภักดี สานต่อดนตรี ด้วยหัวใจ

วิน รัตนพล, ดาต้า ดรัลชรัส, ปอ ธีรวัฒน์ 3 ศิลปินไทย สุดภูมิใจที่ได้เกิดใต้ร่มพระบารมี รัชกาลที่ ๙ ขอจดจำด้วยหัวใจ และสานต่องานดนตรี ทำหน้าที่ศิลปินให้ดีที่สุดต่อไป

เป็นกลุ่มศิลปินวัยรุ่นที่มีผลงานใหม่ใน ปี 2560 กับ 3 ศิลปิน วิน – รัตนพล เก่งเรียน เจ้าของเพลง เธอแค่รับไป, ดาต้า – ดรัลชรัส ศุขีวิริยะ เจ้าของเพลง แค่เธอ และ ปอ – ธีรวัฒน์ อุนจะนำ นักร้องนำ วง HOMeRUN (โฮมรัน) ค่าย Five Four Records เผยความรู้สึกต่อในหลวงรัชกาลที่ ๙ น้อมส่งเสด็จสู่สวรรคาลัย

วิน รัตนพล

“ภูมิใจที่ได้เกิดใต้ร่มพระบารมี ได้เห็น ได้รับรู้สิ่งที่พระองค์ทำเพื่อประชาชนชาวไทยเสมอมา คงไม่มีพระมหากษัตริย์พระองค์ไหนที่ทรงงานหนัก และทรงงานตลอดเวลาเหมือนดังเช่นพระองค์ ตัวผมเองได้ข้อคิดอะไรหลายอย่างจากพระบรมราโชวาท อย่างมีช่วงหนึ่งที่ผมรู้สึกท้อแท้กับการทำงาน อาจจะเพราะในช่วงนั้นมีปัญหาหลายอย่างเข้ามาทำให้เราท้อ แต่บังเอิญได้อ่านพระบรมชาโชวาทเรื่องการแก้ปัญหา ที่มีใจความประมาณว่า

ปัญหาทุกอย่างไม่ว่าเล็กหรือใหญ่ มีทางแก้ไขได้ ถ้ารู้จักคิดให้ดี ปฏิบัติให้ถูก โลกเราในปัจจุบันจะวิวัฒนาการไปมากเพียงใดก็ตาม แต่ก็ยังไม่มีเครื่องมืออันวิเศษชนิดใด สามารถขบคิดแก้ไขปัญหาต่าง ๆ ได้อย่างสมบูรณ์ เราจึงต้องใช้สติปัญญาคิดด้วยสติรู้ตัวอยู่เสมอ หลังจากได้อ่าน มันก็เหมือนเป็นการเตือนสติให้เราได้คิด ได้ไตร่ตรองมากขึ้น จนทุกวันนี้ไม่ว่าจะต้องเจอกับอะไร ผมจะคิดทบทวนจะไตร่ตรองก่อนที่จะตัดสินเสมอ”

ดาต้า ดรัลชรัส

“ดาต้ารู้สึกว่าเวลามันผ่านไปค่อนข้างเร็ว เหมือนกับว่าความรู้สึกในวันนั้นมันยังไม่จางไปเลย ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาคนไทยก็คงรู้สึกไม่ต่างกัน แต่สิ่งหนึ่งที่จะอยู่กับเราไปตลอดคือความทรงจำ ภาพที่พ่อหลวงทำงานหนัก ภาพที่พระองค์สะพายกล้องและเปิดแผนที่ ภาพที่พ่อหลวงโบกมือและยิ้มให้ลูกๆ ของพระองค์เสมอ ไม่ว่าจะเหนื่อยแค่ไหนก็ตาม สิ่งเหล่านี้ดาต้าเชื่อว่าจะไม่มีวันจางหายไปจากความทรงจำของคนไทย การจดจำผ่านสมองอาจจะมีเลือนลางตามเวลาที่ผ่านไป แต่เราจำด้วยหัวใจ เรื่องราวของพ่อจะถูกถ่ายทอดจากรุ่นสู่รุ่นแน่นอน

ถามว่าดาต้าจะเล่าเรื่องอะไรของในหลวง ร.9 ให้คนรุ่นหลังจากนี้ฟัง จริง ๆ มีหลายเรื่องมากๆ แต่หนึ่งเรื่องที่จำฝังใจคือเรื่องฉลองพระบาท(รองเท้า)ที่พระองค์ใช้อย่างพอเพียง พระองค์ทรงส่งให้ช่างซ่อมแล้ว ซ่อมอีกจนช่างบอกว่าซ่อมไม่ได้แล้ว แต่ในขณะเดียวกันเมื่อมองย้อนมามองที่ตัวเราเอง เรามีรองเท้าไม่รู้กี่คู่ บางคู่ใช้งานไม่คุ้มด้วยซ้ำ พระองค์สอนให้เรารู้จักคุณค่าของสิ่งของผ่านการกระทำของพระองค์”

ปอ ธีรวัฒน์ ถือว่าเป็นเกียรติอันสูงสุด ที่ได้ร้องเพลงที่พ่อแต่ง คำพูดแทนความรู้สึก ที่ได้มีโอกาสเป็นผู้ถ่ายทอดเพลงพระราชนิพนธ์ ในนิทรรศการ พระผู้เป็นที่รักยิ่งแห่งแผ่นดิน เพื่อน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณอันหาที่สุดมิได้ ของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ทั้งหมด 9 บทเพลง ได้แก่ ชะตาชีวิต, ใกล้รุ่ง, ยามเย็น, สายฝน, oh i say, แสงเทียน, อาทิตย์อับแสง, still on my mind และ แสงเดือน

“การได้แสดงเพลงพระราชนิพนธ์ในครั้งนี้ ความรู้สึกไม่เหมือนที่เคย ก่อนหน้านี้เราเล่นด้วยความผ่อนคลายและอิ่มใจ แต่ครั้งนี้มันบอกไม่ถูกรู้สึกเหมือนในใจมันหนักๆ จะร้องไห้ก็ร้องไม่ออก เหมือนมีบางอย่างแน่นจุกในอก แต่ก็ต้องคุมความรู้สึกให้ได้ เพื่อให้คนที่ฟังไม่รู้สึกเศร้า ผมอยากให้คนที่ได้ฟังเพลงของพ่อหลวงรู้สึกมีกำลังใจ และยิ้มไปกับเพลงที่พ่อแต่ง ผมคิดว่าท่านคงอยากเห็นลูก ๆ ของท่านเข้มแข็งและก้าวต่อไปด้วยพลังใจที่ดีมากกว่าที่จะเศร้า หรือหดหู่

ถามว่าผมกดดันไหมก่อนจะถึงวันงานผมค่อนข้างกังวลเพราะกลัวจะถ่ายทอดออกมาได้ไม่ดีพอก็เลยฟังและซ้อมเยอะมาก ถือว่าเป็นเกียรติอันสูงสุด ที่ได้ร้องเพลงที่พ่อแต่งเพื่อระลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณของพระองค์ นอกจากผมแล้วยังมีโมชิเพื่อนในวง (โมชิ เปียโน วง HOMeRUN) อีกคนหนึ่งที่มาร่วมเล่นเพลงในครั้งนี้ด้วย ซึ่งความรู้สึกของโมชิก็ไม่ได้ต่างกัน

หลังจากเล่นเสร็จผมได้ไปเดินดูนิทรรศการที่แสดงภาพต่าง ๆ ของพระองค์ ในขณะที่เดินดูอยู่นั้นก็เกิดความคิดที่ว่าพระองค์ทรงเป็นแบบอย่างให้คนไทยได้ในทุกทางจริง ๆ พระองค์เป็นตัวอย่างของลูกกตัญญู เป็นนักกีฬา เป็นนักประดิษฐ์ เป็นนักดนตรี และที่สำคัญเป็นพ่อที่ลูกทั้งแผ่นดินเทิดไว้เหนือเกล้า”

อัพเดทข่าวสารวงการเพลงไทยและสากล พร้อม Scoop เจาะลึกในมุมมองที่น่าสนใจ ติดตาม
Music.trueid.net ได้อีกช่องทางที่ TrueID App หรือร่วมพูดคุยกันผ่านทาง Line @TrueID