รีเซต

เปิดความลับหนุ่มขี้อ้อน! ภูมิ พงศ์รชตะ โลกส่วนตัวสูงแต่เฟรนลี่กับแฟนคลับ และซิงเกิลแรก หอบดาว ร็อคสุดซึ้ง

เปิดความลับหนุ่มขี้อ้อน! ภูมิ พงศ์รชตะ โลกส่วนตัวสูงแต่เฟรนลี่กับแฟนคลับ และซิงเกิลแรก หอบดาว ร็อคสุดซึ้ง
MusicHot
9 เมษายน 2565 ( 12:28 )
1.2K

เป็นอีกหนึ่งหนุ่มบนเวที The Star Idol ที่คว้าหัวใจแฟนๆ ไปแบบเต็มๆ สำหรับ ภูมิ พงศ์รชตะ ไชยศิวามงคล หรือ ภูมิ The Star Idol กับซิงเกิลแรกในชีวิต หอบดาว พร้อมเผยเรื่องราวการทำงานสุดเอ็กซ์คลูซีฟ และอีกหนึ่งมุมที่หลายคนอาจจะยังไม่รู้ ว่าพ่อหนุ่มร็อคคนนี้ถึงแม้จะโลกส่วนตัวสูงแบบสุดๆ แต่กับแฟนคลับเป็นน้อนแมวตัวเชื่องขี้อ้อนไปแบบเต็มๆ แบบนี้แฟนคลับถึงดูแลรักทะนุถนอมแบบสุดๆ ซึ่งทางทีมงาน TrueID มีโอกาสได้สัมภาษณ์หนุ่มน้อย ภูมิ แบบเอ็กซ์คลูซีฟสุดๆ โดยเจ้าตัวได้เผยเรื่องราวของการทำงารในซิงเกิลแรก หอบดาว ว่า 

เล่าความเป็นมาของซิงเกิลหน่อย?
ภูมิ : ตอนแรกภูมิได้คุยกับ พี่จ๋าย ไททศมิตร ที่เป็น โปรดิวเซอร์นะครับ ตอนแรกเราก็คุยกันว่าจะใช้เพลงเดโมที่แต่งไว้อยู่แล้ว ก็ลองเสนอไปให้พี่ๆ เขาฟังดู แล้วพี่จ๋ายก็เลยเสนอว่าโอเค เดี๋ยวท๊อปปิกนี้ประเด็นนี้ที่เราอยากจะเล่าอยากจะสื่อสารคือจะพูดถึงครอบครัว จะพูดถึงตัวเราที่คิดถึงบ้านคิดถึงใครซักคนที่บ้านอยู่ พี่จ๋าย เลยเอาเนื้อไปทำต่อครับ เรียบเรียงเลยกลายมาเป็นเพลงหอบดาวในเพลงนี้ครับ 

เป็นมายังไงพี่จ๋าย ถึงมาเป็นโปรดิวเซอร์ให้เราได้?
ภูมิ : จริงๆ ผมไม่รู้เลยครับว่าพี่จ๋าย จะมาเป็นโปรดิวเซอร์ให้ คือตอนแรกผมยังไม่รู้ว่าใครจะมาเป็นโปรดิวเซอร์ให้ผม ผมคือพี่ๆ เขาก็บอกว่าเดี๋ยวพี่จ๋าย จะมาเป็นโปรดิวเซอร์ให้ภูมินะ (เราได้ถามมั้ยว่าทำไมพี่จ๋ายถึงมาโปรดิวให้เรา?) หลังจากที่ได้ทำงานกับพี่ๆ เขาแล้ว ก็ได้มาถาม พี่เขาก็บอกว่าโปรดิวเซอร์จะมาเป็นคนเลือกน้องๆ เอง ว่าอยากทำเพลงให้ใครนะครับ แล้วทีมพี่จ๋ายก็เลือกภูมิ เพราะเหมือนว่าเขาตามไปดูเทปย้อนดูรายการเดอะสตาร์ เค้าคิดว่าภูมิน่าจะเป็นทางสายเดียวกับพี่ๆ เขา เขาก็เลยเลือกที่จะทำเพลงให้ภูมิครับ 

พอเราได้ร่วมงานกับพี่ๆ เขาแล้วเป็นยังไงบ้าง?
ภูมิ :  พี่ๆ ใจดีมากๆ ครับ และในเรื่องของการทำงานพี่ๆ เขาให้อิสระของการทำงานของเราได้แทบจะเต็มที่เลย แล้วก็มีเรื่องของความรู้สึกในเพลงเรื่องราวของการที่เราจะต้องสื่อสาร พี่ๆ เขาจะต้องบรีฟเราว่าประมาณนี้ๆ ครับ 

พอรู้ว่ากำลังจะมีซิงเกิลเรารู้สึกยังไงบ้าง?
ภูมิ : รู้สึกดีมากๆ เลยครับ เพราะผมหวังไว้ตั้งแต่เด็กว่าซักวันเราจะมีเพลงเป็นของตัวเอง ได้ออกเพลงกับค่าย แล้ววันนี้มันก็มาถึงวันนั้นก็ถือว่าเป็นความสำเร็จอีกจุดหนึ่ง แต่ผมว่าตรงนี้มันคือจุดเริ่มต้น ผมอยากไปให้ไกลมากกว่านี้ เพราะตอนนี้เหมือนประสบความสำเร็จในขั้นแรกครับ มันเป็นความสำเร็จพื้นฐานที่ผมพอใจแล้วตอนนี้ แต่ก็อยากที่จะไปให้ได้มากกว่าครับ 

ทำไมถึงคิดจะสื่อสารเนื้อหาแบบนี้ให้แฟนๆ ได้รู้ในซิงเกิลแรก?
ภูมิ : ผมชอบพูดเกี่ยวกับความฝันของคนอื่นๆ และก็ของตัวเองด้วย จริงๆ แล้วเพลงแรกผมมีเดโมให้พี่ๆ ฟัง 3 ตัว จริงๆ มีอยู่เพลงหนึ่งที่ผมอยากเอามาทำมาก ชื่อเพลงว่าเติมไปครับ คือเพลงที่นำมาแล้วเป็นเพลงร็อคแบบร็อคเลย แล้วพี่ๆ เขาเห็นไปในทางเดียวกันว่าเพลงมันใหญ่กว่าตัวเรา ด้วยวัยของเราอายุของเรา และเนื้อหาที่เราจะพูดมันก็คือเนื้อหาจริงจัง ผมเลยคิดว่าเก็บเอาไว้ก่อนแล้วค่อยเอามาปล่อยทีหลัง ค่อยๆ ให้ทุกๆ คนได้ฟังแบบเนื้อหาค่อยๆ เป็น ค่อยๆ ไป แล้วให้รู้สึกได้ดีกว่า 

เพลงซิงเกิลแรกคือแต่งเองด้วยใช่มั้ย?
ภูมิ : เนื้อร้องมาจากพี่จ๋ายครับ แต่เนื้อหาของเพลงมาจากชีวิตของภูมิ คือเราได้คุยกับพี่จ๋ายว่าผมเป็นคนจังหวัดไหน ผมโตมาอะไรยังไงในครอบครัวแบบไหนประมาณนี้ครับ พี่จ๋ายก็เอาเรื่องราวในชีวิตผมไปแต่งเป็นเพลงนี้ขึ้นมา 

การเข้าห้องอัดใช้เวลานานไหม?
ภูมิ : ผมใช้เวลาเข้าห้องอัดประมาณ 6 ชั่วโมง ตั้งแต่ 2 ทุ่ม - ตี2 คือเราจะเข้าไปอัดซักแป๊บนึงแล้วก็ออกมาโอเคตรงนี้ได้แล้ว แล้วมาต่ออีกท่อนหนึ่ง คือเราจะมาคุยกันว่าเราจะร้องยังไงสื่อสารยังไงให้คนรู้สึกกับเพลงได้มากที่สุด มันเลยใช้เวลาค่อนข้างเยอะ

เกร็งไหมตอนนี้คือเข้าห้องอัดแบบจริงจังมีคนคุมร้อง?
ภูมิ : ไม่ได้รู้สึกเกร็ง แต่รู้สึกสนุกมากๆ มากกว่าครับ เพราะว่าผมเคยทำเพลงตัวเองแล้วก็ทำเพลงกับเพื่อนมาก่อนเลยรู้สึกว่าสนุกดี แล้วตัวผมเองก็เคยทำเพลงในสตูมาก่อน เพลงนี้ก็เลยค่อนข้างที่จะง่ายครับ แต่เพลงนี้โหดหน่อย เพราะเสียงแต่เสียงโน้ตแต่ละโน้ตมันสุดเสียงผมจริงๆ เพลงนี้ 

พอได้ร่วมงานกับพี่ๆ เขาแล้วเป็นยังไงบ้าง?
ภูมิ : พอได้ร่วมงานกับพี่ๆ เขาแล้ว คือพี่ๆใจดีมากครับ พี่ๆ เขาให้ความอิสระของเราได้แทบจะเต็มที่เลย เราอยากได้อะไรอยากทำอะไรพี่เขาก็จะให้เราคิดได้เลยครับ (ความรู้สึกแรกที่ได้รู้ว่าพี่ๆ อยากโปรดิวให้เรารู้สึกยังไงบ้าง?) ตอนแรกที่รู้เลยคือผมดีใจมากๆ เพราะผมติดตามไททศมิตร ผมเป็นแฟนคลับไททศมิตรอยู่แล้ว เพราะว่าพี่ๆ เขาเป็นไอดอลผมเลย เพราะว่าแนวทางดนตรีหรือภาษาที่ใช้ในเพลงก็เรียกว่าได้รับอิทธิพลมาจากไททศมิตรส่วนหนึ่งเลยก็ว่าได้ครับ แล้วพอได้ทำงานจริงๆ ก็ดีใจมากๆ ครับ 

พอเพลงได้ปล่อยออกไปแล้วฟิคแบล็คจากแฟนๆ เป็นยังไงบ้าง?
ภูมิ : ภูมิว่ามันค่อนข้างดีเลยครับ เพราะรู้สึกว่าทุกคนเขาคิดถึงบ้าน เราอยากจะสื่อสารให้คนฟังได้ฟังแล้วก็รู้สึกตารมไปกับเราในเนื้อเพลง เท่าที่อ่านคอมเมนต์มาทุกคนก็บอกว่าอารมณ์มันรับรู้รู้สึกได้ครับ 

เนื้อหาของเพลงดูจะเศร้าๆ แต่ดนตรีนี่หนักแน่มาก เรานำมาผสมผสานกันยังไงบ้าง?
ภูมิ : จริงๆ แล้วหอบดาวมันจะร็อคกว่านี้ด้วย แต่เราลดทอนความร็อคลงมา เพราะว่าเราอยากเน้นเนื้อหาที่จะพูดมากกว่าครับ เพราะถ้าเกิดมันร็อคไปมันเลยจะดูแข็งกร้าวเกินไป เลยคิดที่จะเลือกระดับให้มันซอฟลงมา (จริงๆ แล้วสไตล์ที่เราชอบคือแนวเพลงแบบไหน?) จริงๆ ที่ชอบจริงคือสไตล์ฟังก์ครับ ชอบดนตรีฟิวชั่นร่วมสมัยดนตรีแบบผสมผสาน จริงๆ ไม่ได้ฟิคว่าจะชอบแบบไหนจริงๆ ค่อนข้างที่จะเปิดกว้างมากกว่า 

การทำทำ MV เป็นยังไงบ้าง?
ภูมิ : ถ่ายทำ MV ที่แรกที่หัวลำโพงครับ วันนั้นกองใหญ่มากครับ ผมไม่คิดว่า MV ผมมันจะมีหลายๆ คนเยอะขนาดนี้ ตอนแรกคิดว่าจะเป็นอารมณ์แบบแค่เปิดหมวกธรรมดา แต่พอไปถึงที่จริงแล้ว มันมีอะไรน่าตื่นเต้นเยอะมากๆ (เขินไหม?) มีพี่ๆ นักแสดง 30 คน มาถือไฟให้ใน MV ตื่นเต้นและสนุกมาครับ ผมไปเปิดหมวกที่อนุเสาวรีย์ด้วย แล้วก็ตลาดห้วยขวาง เพราะก่อนที่ผมจะมาประกวด The Star Idol ผมก็เล่นดนตรีกลางคืน เปิดหมวดบ้างก็เลยค่อนข้างที่จะคุ้นชินกับสถานการณ์

ตอนนี้จากเด็กธรรมดาสู่การเป็นศิลปินมีเพลงมีแฟนคลับรู้สึกยังไงบ้าง?
ภูมิ : รู้สึกดีมากๆ เลยครับ มันดีแต่ว่าแรกๆ ผมก็ตื่นเต้นครับ เพราะตอนเด็กๆ เราก็อยากเป็นศิลปินมีคนรู้จักผลงานผม มีคนมาฟังเพลงของผมในทุกๆ วัน ผมดีใจมากครับ ผมทำตัวไม่ถูกเพราะว่าผมไม่เคยมีแฟนคลับมารอรับเราหลังจากที่เราทำงานเสร็จแล้ว พอวันหนึ่งมันมีมันก็ทำตัวไม่ถูกเหมือนกัน แต่ตอนนี้ก็สบายตัวสบายใจมากขึ้นครับ ที่ทุกคนรอซัพพอร์ทเราอยู่ตลอดครับ และพอเขารู้ว่าผมกำลังจะมีเพลงกำลังจะมีซิงเกิล เขาก็รอคอยรอติดตาม ผมก็รู้สึกดีมากๆ เลยที่มีคนรอฟังเพลงเรา จริงๆ เราไม่ได้คาดหวังผลตอบรับ แค่ผมรู้สึกว่าถ้าเพลงเรามันมีคนฟังก็ดีแล้ว แล้วพอทุกคนเข้ามาฟังผมก็ดีใจจริงๆ ครับ 

ครอบครัวว่ายังไงบ้างพอได้รู้ว่าเรามีเพลง?
ภูมิ : ทุกคนก็ดีใจยินดีกับผม เพราะทุกคนก็รอฟังมาตลอดครับ คือเมื่อก่อนผมก็ทำเพลง แล้วผมเคยบอกคุณแม่ว่าผมเนี่ยทำเพลง เขาก็โอเคทำเพลงเขาไม่ได้รู้สึกตื่นเต้นมากขนาดนี้ แค่พอเขาเห็นเขารู้ว่าเราจะออกเพลงแบบเป็นทางการแบบนี้จริงๆ ทุกคนตื่นเต้นมาก ทุกคนอยากฟังๆ แล้วพอฟังทุกคนรู้สึกแบบที่ผมอยากให้รู้สึก ผมก็เลยดีใจมากๆ ครับ 

อยู่กรุงเทพคนเดียวเป็นยังไงบ้าง?
ภูมิ : เราติดต่อกับที่บ้านตลอด มาอยู่นี่ก็อยู่คนเดียว บางทีเหงาก็โทรไปคุยกับแม่ครับ 

นอกจากงานเพลงตรงนี้เรามีผลงานอะไรอีกมั้ย?
ภูมิ : ตอนนี้ก็โฟกัสกับงานร้องเพลงตรงนี้ครับ 

ในอนาคตจะมีผลงานเพลงอะไรออกมาอีกมั้ย?
ภูมิ : ตอนนี้ผมก็แต่งเพลงไปเรื่อยๆ ครับ มีสต๊อกไว้บ้าง นิดหน่อยแล้ว เพราะว่าผมจะเก็บตังค์ทำอัลบั้มครับ อยากมีอัลบั้มเป็นของตัวเอง อาจจะปล่อยเพลงอีกซัก 2-3 เพลงแล้วก็เก็บตังค์ทำอัลบั้ม

เราชอบแต่งเพลงตั้งแต่ตอนไหน?
ภูมิ : คือจริงๆ ผมไม่ได้เป็นคนชอบแต่งเพลงขนาดนั้น เพียงแต่ว่าผมเป็นคนที่แต่งเพลงได้ ถ้าเกิดผมชอบแต่งเพลงผมจะต้องนั่งแต่งทุกวัน แต่ผมไม่ได้ต้องการที่จะนั่งแต่งทุกวัน ผมรอเรื่องราวเข้ามาเดียวกันแล้วค่อนแต่ง คือผมเริ่มรู้ตัวว่าผมแต่งเพลงได้ตั้งแต่ ม1-ม2 ตอนนั้นผมอยู่กับพวกพี่ๆ ที่เป็น Rapper ครับ ช่วงนั้นก็ทำเพลง Rap มาบ้างครับ 

เพลงส่วนใหญ่ที่แต่งมาจะเป็นสไตล์ไหนบ้าง?
ภูมิ : ถ้าเป็นสไตล์ที่เป็นผมเลยผมคิดว่าน่าจะเป็นฟังก์อัลเทอร์นาทิฟ ส่วนเนื้อหาของเพลงส่วนใหญ่ก็จะเป็นการให้กำลังใจครับ แล้วก็จะเป็นประมาณว่าบ่น บ่นเรื่องราวประเด็นนู้นประเด็นนี้ 

นอกจากงานดนตรีแล้วเราอยากทำงานอะไรในวงการอีกมั้ย?
ภูมิ : ผมอยากลองพากย์การ์ตูนครับ ผมชอบงานใช้เสียง งานพิธีกร งานแสดงก็ถ้ามีโอกาสผมก็อยากลองทำเหมือนกันครับ ผมก็บอกไปว่าผมสนใจ แต่ยังไม่มีใครติดต่อมาเลยครับ แต่ถ้าใครสนใจก็ติดมาได้นะครับ (หัวเราะ) ผมชอบทำอะไรบ้าๆ บอๆ ไม่ค่อยชอบทำอะไรเหมือนคนอื่นเขา (หัวเราะ) ผมเคยพากย์โฆษณาที่เป็นโฆษณาคอนโดครับ มีตัวหนึ่งที่ผมเคยพากย์ไว้ ซึ่งพอได้ลองทำแบบจริงจังแล้วมันสนุกมาก ผมชอบอะไรที่มันมีเสียงเราครับ ดูอันนี้ปุ๊บนี่เสียงผมนี่ผมภูมิใจ โฆษณาอันนี้ยังหาดูได้นะครับ 

เป็นมายังไงถึงมีโอกาสได้ไปพากย์ไว้?
ภูมิ : ผมรู้จักพี่ๆ ที่มาประกวด The Star นี่แหละครับ เขาทำงานเกี่ยวกับเบื้องหลังด้วย เขาก็หาคนที่จะมาลงเสียงโฆษณาตัวนี้ ผมก็เลยเสนอตัวเองไปว่า ถ้าพี่หาอยู่ผมลองทำได้มั้ย ผมอยากทำ ก็เลยได้ลองงาน ตอนแรกผมก็เทสเป็นเดโมก่อน พี่ๆ เขาก็โอเค พอนัดวันมาก็ลงเสียงจริงเลยก็เลยได้ทำงานตรงนี้เลยครับ 

ก้าวสำคัญในการเป็นนักร้องและการเข้าวงการเราปรับตัวอะไรเยอะมั้ย?
ภูมิ : ก็มีปรับตัวในเรื่องของการทำงานครับ และก็เรื่องของการวางตัวเลยครับ เพราะว่าเอาจริงๆ แล้ว ผมเป็นคนที่ค่อนข้างที่จะมีโลกส่วนตัวสูง พอผมออกมาเจอคนอื่นๆ ผมก็จะต้องแอคทีฟมากกว่าเดิม เมือ่ก่อนผมจะไม่ค่อยพูดเยอะด้วย แต่ตอนนี้ผมรู้สึกว่าผมเริ่มที่จะพูดเยอะขึ้นแล้วครับ 

คิดว่าเราต้องปรับเยอะเลยมั้ย เพราะถ้าเราโลกส่วนตัวสูง แต่พอเรามาเจอแฟนๆ เราอาจจะต้องเฟรนลี่กับเขา?
ภูมิ : เรื่องนี้ไม่มีปัญหาเลยครับ ภูมิโลกส่วนตัวสูงก็จริงแต่ภูมิค่อนข้างที่จะเป็นคนเฟรนลี่มันอาจจะดูย้อนแย้ง แต่ว่ามันเป็นแบบนั้นจริงๆ ผมอาจจะไม่ได้แบบสนใจอะไรรอบข้างถ้าผมอยู่กับตัวเองนะครับ เหมือนว่าพอมีอะไรในหัวให้เราคิดตลอดเวลา 

เล่าความน่ารักของแฟนคลับที่เราเจอหน่อย?
ภูมิ : เขาเลี้ยงผมเหมือนเป็นลูกเลยครับ (หัวเราะ) เขาซื้อข้าวซื้อน้ำมา ซื้อมาให้แล้วก็แบบมีพี่คนหนึ่งวาดรูปมาให้เป็นรูปหน้าผม สวยมากๆ น่ารักมากครับ 

คิดว่าตอนนี้มาไกลเกินฝันหรือยัง?
ภูมิ : มันไม่เกินฝัน มันเป็นไปตามฝันเลยครับ ฝันต่อไปของผมก็คือผมอยากทัวร์ครับ อยากทัวร์ทั่วประเทศไทย เพราะตอนนี้มีร้องบ้างเป็นงานอีเว้นท์ครับ แต่ว่าอยู่ในกรุงเทพ ผมอยากมีโอกาสที่ไปเล่นตามต่างจังหวัดขึ้นเหนือลงใต้ 

คิดว่าสถานการณ์โควิดเป็นอุปสรรคต่อการทำงานมั้ย?
ภูมิ : เป็นอุปสรรคครับ เพราะว่าตอนที่ผมเป็นโควิด ผมก็โดนเลื่อนงานออกไป บางงานก็โดนยกเลิกไป คาดว่าถ้าโควิดหายเราก็จะมีโอกาสได้เจอกับแฟนคลับบ่อยขึ้น อาจจะมีงานมากขึ้นครับ 

จากนี้จะมีผลงานอะไรอีกมั้ย?
ภูมิ : มีซิงเกิลอีกครับ แต่ยังไม่ได้สรุป เพราะว่ามีหลายเพลง แต่ก็ยังไม่เสร็จทั้งหมด และผมก็ยังไม่รู้ว่าเพลงต่อไปผมจะเล่าไปทางไหนดี แต่น่าจะเป็นเนื้อหาที่ให้กำลังใจครับ แนวเพลงน่าจะคล้ายกับเพลงแรกแต่อาจจะมีจังหวะที่ขึ้นมากกว่านี้ (จริงๆ แล้วภูมิชอบร็อคหรือเปล่า?) จริงๆ ผมเริ่มร้องเพลงมาจากร็อคด้วยครับ เริ่มตั้งแต่แรกเลยผมร้องลูกทุ่งหมอลำก่อน ตอนที่ผมจำความได้ พ่อแม่เล่าให้ฟังว่าผมจะร้องลูกทุ่งหมอลำ แล้วพอเริ่มที่จะประกวดร้องเพลงผมมาร้องเพลงลูกกรุงแล้วก็พอเข้าม.ต้น ผมก็ร้องร็อคมาเรื่อยๆ เลยครับ

คิดที่อยากจะนำร็อคลูกทุ่งลูกรุงมาผสมผสานกันในหนึ่งเพลงมั้ย เพื่อเป็นเอกลักษณ์ของภูมิคนเดียว? 
ภูมิ : มันน่าจะแปลกเกินไปมั้ย แต่ก็น่าทำนะครับ เพราะมันอาจจะเป็นอะไรที่แปลกใหม่ ไม่มีใครเคยได้ยินเพลงแบบนี้มาก่อน ซึ่งในซิงเกิลที่ 2 นี้ก็รันไป 40-50% แล้วครับ ในเรื่องของขั้นตอนการแต่งนะครับ ยังไม่ได้เข้าสตู แต่ยังบอกไม่ได้เลยครับว่าจะประมาณวันไหน เพราะว่ายังไม่รู้ว่าจะแต่งเสร็จตอนไหน ผมกำลังรวบรวมเรื่องราวที่อยากจะเล่าอยู่ เพราะว่ามันยังไม่เจอจุดที่ใช่จริงๆ ทุกวันนี้ก็ยังแก้เนื้ออยู่เลยครับ 

ฝากผลงาน?
ภูมิ : ภูมิปล่อยเพลงแล้วนะครับ ชื่อเพลงว่าหอบดาว ฟังได้ที่ Youtube ช่องวัน31 แล้วก็ฟังได้ทุกสตรีมมิ่งเลยครับ 

 

 

ฟังเพลงออนไลน์ เพลงใหม่ ได้แล้ววันนี้บน TrueID ทั้ง เว็บไซต์ และ แอปพลิเคชัน

 

อ่านข่าวอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง :

 

บทความที่เกี่ยวข้อง