FTISLAND ร็อกแก่นเซี้ยวเปรี้ยวซ่า ประกาศศักดา วงดนตรีที่ดีที่สุดของเกาหลี

เปิดฉากคอนเสิร์ตกันเก๋ๆ ด้วยภาพสดยิงตรงจากหลังเวที เผยให้ผู้ชมในฮอลล์ได้เห็นบรรยากาศ 5 หนุ่มกำลังเปิดแชมเปญหรูขวดโตแล้วชนแก้วฉลองครบรอบขวบปีที่ 6 แห่งความสำเร็จในวงการเพลงเกาหลี จากนั้น ลีดเดอร์จงฮุน นำทีมก้าวขึ้นสู่เวที เพื่อระเบิดความมันทันทีแบบไม่ต้องวอร์มในเพลง ‘Flower Rock’ (Korea version) ซึ่งนอกจากเสียงลีดกีตาร์จะจัดจ้าน เร้าใจแล้ว ผู้ชมยังต้องตกตะลึงกับความอลังการของระบบแสงสีเสียง ที่ประโคมเข้าจังหวะกับดนตรีอย่างลงตัวที่สุด จากนั้นนักร้องนำสุดไฮเปอร์ ฮงกี ก็คว้าผ้าขนหนู (ผ้าเชียร์) ออกมาชวนแฟนๆ สะบัดบิ๊วด์อารมณ์ต่อเนื่อง 2 เพลงรวด ตั้งแต่ ‘Let it go!’ (Korea version) จนถึง ‘WANNA GO’ ซึ่งล้วนแล้วแต่เป็นเพลงเด็ดทั้งสิ้น  เล่นเอาแฟนๆ กระโดดสุดตัวจนพื้นฮอลล์สะเทือน ก่อนจะเข้าสู่ช่วงพักหายใจหายคอและทักทายอย่างเป็นทางการ เริ่มต้นจาก ฮงกี ที่เปิดหัวด้วยการขอบคุณแฟนๆ สำหรับโปรเจ็กต์แปลอักษรเป็นรูป “หัวใจ” สีแดงบนอัฒจันทร์คนดูฝั่งซ้าย (มองจากเวที) พร้อมด้วยตัวหนังสือคำว่า “FT” สีน้ำเงินบนอัฒจันทร์ด้านขวา  ซึ่งก็หมายถึง “รักเอฟที” นั่นเอง ทำเอาเจ้าตัวปลื้มปริ่มจนต้องขอถ่ายภาพช็อตนี้เก็บไว้เป็นที่ระลึกเลยทีเดียว  ถัดมาที่มือเบส แจจิน อาสาชวนทุกคนสนุกไปกับคอนเสิร์ต ส่วนมือกีตาร์ ซึงฮยอน ให้คำมั่นว่าจะสู้ตาย ไม่ต่างจาก มือกลองน้องเล็ก มินฮวาน ที่ขอยืนยันด้วยคำว่า “สู้ๆ” รวมถึง จงฮุน ก็ทักทายแฟนๆ ด้วยภาษาไทยเช่นกัน

ไม่ต้องรอให้เหงื่อแห้ง มินฮวาน ก็รัวไม้กลองเปิดกรุเพลงดัง ‘Hello Hello’ ให้พรีมาดอนน่าชาวไทยได้ฟินกันอีกครั้ง จนร้องตามดังกระหึ่มออกมานอกฮอลล์  ต่อเนื่องด้วยเสียงอินโทรอันเป็นเอกลักษณ์ของเพลงเอกประจำทัวร์คอนเสิร์ตนี้ คงเป็นเพลงไหนไม่ได้นอกจาก ‘Memory’ ตามมาติดๆ ด้วยผลงานที่เกิดจากฝีมือการแต่งเนื้อร้องและเรียบเรียงทำนองโดยมือเบสหน้าหวาน แจจิน คือเพลง ‘Paper Plane’ (Korea version)” และ ‘Falling Star’ ที่แสดงให้เห็นถึงความสามารถเชิงลึกทางดนตรีของสมาชิก FTISLAND ได้อย่างชัดเจน จากนั้นพักพูดคุยให้แฟนๆ หายคิดถึงอีกสักยก คราวนี้ ฮงกี จอมแก่นปล่อยทีเด็ด ท้าผู้ชมที่เพิ่งเคยมาดูคอนเสิร์ตของเอฟทีไอส์แลนด์เป็นครั้งแรกว่า จะต้องหลงรักพวกเขาอย่างแน่นอน! 

เปลี่ยนบรรยากาศจากซาวนด์หนักๆ มาเป็นเสียงกีตาร์อะคูสติกสบายๆ จากหนุ่ม ซึงฮยอน และลีดเดอร์สุดหล่อ จงฮุน ใน ‘Always with you’ เพลงที่หนุ่มๆ ชาวเกาะเอ่ยว่าตั้งใจมอบเป็นของขวัญให้แฟนชาวไทย เพื่อขอบคุณที่คอยให้การสนับสนุนและเป็นกำลังใจมาตลอดระยะเวลา 6 ปี ต่อด้วย ‘I Confess’ (Acoustic version) เพลงจากฝีมือการแต่งของลีดเดอร์จงฮุนที่เมมเบอร์ทั้ง 5 คนได้ร้องร่วมกัน  จากนั้นหนุ่มๆ กลับเข้าประจำตำแหน่งเครื่องดนตรีหลักพร้อมนำเข้าเพลงเพราะล่าสุดอย่าง ‘Madly’ งานนี้เรายังได้เห็นซีนพิเศษคือ จงฮุน โชว์เดี่ยวเปียโนในเพลง ‘Severely’ ก่อนที่ ฮงกี จะเข้ามาสมทบ ชวนผู้ชมดำดิ่งสู่ห้วงรักอันแสนเจ็บปวดไปกับเนื้อเพลงและเสียงร้องอันบาดใจ

สลับอารมณ์มาที่เซ็ตเพลงมันๆ ผลงานเวอร์ชั่นญี่ปุ่นของ FTISLAND ซึ่งถูกนำมาแปลงเนื้อเป็นภาษาเกาหลี ในโอกาสพิเศษนี้เพื่อมอบแด่แฟนๆ ไม่ว่าจะเป็น ‘Theory of Happiness’ (Shiawa Theory – Korea version), ‘Time To’ (Korea version), ‘TOP SECRET’ (Korea version) และ ‘Freedom’ (Korea version) ก่อนจะเข้าสู่ช่วงสุดท้ายของคอนเสิร์ต ฮงกี ถือโอกาสช่วงพักนี้บันทึกภาพโปรเจ็กต์อันสวยงามไว้เป็นที่ระลึก และสัญญาว่าจะนำไปอัพโหลดในโซเชียลเน็ตเวิร์คให้พรีมาดอนน่าได้ฟินกันถ้วนหน้า แล้วจึงเผยว่าเพลงที่จะแสดงต่อไปเป็นเพลงที่แฟนๆ อาจไม่ค่อยได้ยินกันบ่อยนัก ทว่าเป็นเพลงที่พวกเขาชอบมากจากอัลบั้มในญี่ปุ่น ซึ่งน่าเสียดายที่ไม่ได้อยู่ในอัลบั้มเกาหลี จึงอยากให้ลองฟังกัน และย้ำโชว์เปรี้ยวอีกรอบว่า “ผมจะทำให้คุณหลงรักผม” จากนั้นซาวนด์ดนตรีเพราะจับจิตของ ‘Beloved’ (Korea version) ก็ดังขึ้น ต่อด้วยเซ็ตร็อก 2 เพลงติด อย่าง ‘Black Chocolate’ (Korea version) และ ‘Revolution’ (Korea version) ก่อนที่ 5 หนุ่มจะเลือกเพลงอมตะตลอดกาล ‘Love Sick’ มาปิดท้ายความสนุกก่อนเดินลงเวทีไป

ทันทีที่แสงไฟดับลง เสียงอังกอร์จากผู้ชมก็ดังกระหึ่มขึ้น ด้วยต้องการให้ FTISLAND หวนคืนสู่เวทีอีกครั้ง  พอหนุ่มๆ ได้ยินเข้าก็ทนเสียงเรียกร้องไม่ไหว กลับขึ้นมาประจำตำแหน่งอีกรอบ และช่วงเวลานี้เองที่เค้กฉลองวันเกิดทั้งสำหรับ ฮงกี และ จงฮุน ที่เกิดในเดือนมีนาคม รวมถึงวาระครบรอบ 6 ปีของวง ก็ถูกส่งขึ้นไปเซอร์ไพรส์บนเวที ทำเอาหนุ่มๆ ตาโตด้วยความตื่นเต้น  พวกเขากล่าวขอบคุณสำหรับทุกสิ่งทุกอย่างและให้สัญญาณร้องเพลงวันเกิดพร้อมเป่าเค้กร่วมกันกับแฟนๆ งานนี้ใครที่ได้ไปชมคอนเสิร์ตคงจะได้ศัพท์ใหม่ “ขอบคุณอิมนีดา” แปลว่า “ขอบคุณจริงๆครับ” ที่ฮงกีเป็นผู้บัญญัติขึ้นเองติดตัวกลับบ้านไปฟินต่ออย่างแน่นอน  ส่งท้ายช่วงอังกอร์ด้วย 2 เพลงฮิต ‘I Wish’ และ ‘I Hope’ ที่พูดเลยว่ามีพลังเท่าไหร่ก็ใส่กันไม่ยั้งจริงๆ ทั้งศิลปินทั้งคนดู ปิดฉากคอนเสิร์ตลงอย่างสมบูรณ์แบบไร้ที่ติ ชนิดที่ใครพลาดหนนี้แล้วอาจต้องเสียใจไปอีกนาน 

ข้อสังเกตหนึ่งจากคอนเสิร์ตนี้ที่ไม่อาจลืมกล่าวถึงได้คือ พลังเสียงเชียร์ของแฟนคลับ และโปรเจ็กต์ต่างๆ ที่เหล่าพรีมาดอนน่าชาวไทย ตั้งอกตั้งใจทำขึ้นเพื่อ FTISLAND ไม่ว่าจะเป็นโครงการ “ขอบคุณรัก..ปันน้ำใจ..ช่วยสานฝัน” ซึ่งชักชวนให้ทุกคนได้ปันน้ำใจด้วยการนำสิ่งของหรือเสื้อผ้ามาร่วมบริจาค ณ บริเวณหน้างานคอนเสิร์ต เพื่อให้ มูลนิธิกระจกเงา ได้รวบรวมและนำไปบริหารจัดสรรให้เกิดประโยชน์แก่ผู้ด้อยโอกาสในเมืองไทย  รวมถึงโปรเจ็กต์แปลอักษรและชูป้ายข้อความหลากหลายตลอดช่วงการแสดงคอนเสิร์ต ล้วนเป็นเครื่องชูรส ชูบรรยากาศ ให้ศิลปินและแฟนคลับผสานใจเข้าเป็นหนึ่งเดียวกันได้อย่างน่าทึ่งจริงๆ สมแล้วที่หนุ่มๆ เอฟทีไอส์แลนด์ต่างก็รู้สึกประทับใจและขอบคุณแฟนคลับชาวไทยที่อยู่เคียงข้างพวกเขาตลอดมา “ขอบคุณอิมนีดา”

และเพื่อไม่ให้อารมณ์ร็อกขาดตอน “โฟร์ วัน วัน เอ็นเตอร์เทนเม้นท์” เตรียมลุยต่อทันควัน แบบแซงคิวทุกประเทศ ด้วยการคว้าทัวร์คอนเสิร์ตครั้งใหม่ล่าสุดของไอดอลนักดนตรีที่มีดีกรีความแรงไม่เคยตกอย่าง “ซีเอ็นบลู” (CNBLUE) มาให้เหล่าบอยซ์ชาวไทยได้สนุกกันเป็นที่แรกนอกประเทศเกาหลี พร้อมเติมเต็มความทรงจำให้พิเศษมากยิ่งขึ้นด้วยวาระครบรอบหนึ่งปีในการจัดคอนเสิร์ตใหญ่ในประเทศไทยพอดิบพอดี!! พบกันที่เก่า วันเดิม กับคอนเสิร์ต “2014 ซีเอ็นบลู ไลฟ์ – แคนท์ สต็อป อิน ไทยแลนด์” (2014 CNBLUE LIVE – Can’t Stop in THAILAND) วันอาทิตย์ที่ 4 พฤษภาคม 2557 ณ อิมแพ็ค อารีน่า เมืองทองธานี ** เริ่มเปิดจำหน่ายบัตรตั้งแต่วันที่ 4 เมษายนนี้ ** ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ทางเว็บไซต์หลักของผู้จัด บริษัท โฟร์ วัน วัน เอ็นเตอร์เทนเม้นท์ จำกัด  www.411ent.com, www.facebook.com/fouroneoneent และทวิตเตอร์ @411ent  รวมทั้งอินสตาแกรมของซีอีโอ http://instagram.com/kungchalermchai/