สาวมาดเท่ที่เก่งรอบด้าน เป็นทั้งไบค์เกอร์นางแบบนักแสดง ดีเจ และพิธีกรเจ้าของเสียงทรงพลังที่ขับร้องบทเพลงสนุก ๆ อย่าง “Play Girl” ที่ฮิตไปทั่ว นักร้องสาว “ส้ม อมรา ศิริพงษ์” ที่มีภาพลักษณ์สาวเปรี้ยวที่มั่นใจในตัวเอง แต่ชีวิตส่วนตัวกลับชอบการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมจนได้รับเกียรติให้เป็น 1 ใน 6 ตัวแทนคนไทยวิ่งคบเพลิงโอลิมปิก เมื่อปี 2008 รวมถึงยังสนใจใฝ่ศึกษาธรรมะทางพุทธศาสนามาโดยตลอด ไม่มีใครรู้ว่าสาวคนนี้มีปมอันเกิดจากการเลี้ยงดูของพ่อแม่ตั้งแต่วัยเด็กจนถึงอายุ 18 ปีเต็ม ทำให้เธอใช้ชีวิตทั้งการเข้าสังคมและการพูดคุยกับเพื่อนต่างเพศไม่เป็น จน “อุ๋ย บุดดาเบลส” หนึ่งในทีมเมนทอร์ ยอมรับว่า “ส่วนตัวรู้จักกับพี่ส้มมานาน และเห็นว่าเวลาเข้าไปคุยกับใครก็จะมีจังหวะแปลกๆ รวมถึงการแสดงออกด้วยการ กอดกับผู้ชายโดยไม่ถือตัว มาวันนี้เพิ่งเข้าใจว่าพี่ส้มเป็นแบบนี้ก็เพราะถูกเลี้ยงดูมาแบบนี้นี่เอง”
ซึ่ง “ส้มอมรา” ได้มาเปิดใจในรายการ “The Hidden Songs ร้องเรื่องลับ” ที่มีกระบวนการบำบัดด้วยการพูดคุยและร้องเพลง (sing&talk therapy) กับเรื่องราว “รัก กัก ขัง” ให้ฟังว่า “พ่อเป็นคุณหมอและผู้อำนวยการโรงพยาบาลซึ่งต้องย้ายไปบริหารโรงพยาบาลจังหวัดต่างๆ จึงให้เข้าโรงเรียนประจำ ซึ่งเราเป็นเด็กที่เรียนดีมากได้เกรด 4 ตลอด รวมถึงทำกิจกรรมทุกอย่างทั้งศิลปะทั้งกีฬา แต่การเลี้ยงดูของพ่อแม่จะเป็นแบบไข่ในหินต้องอยู่ในสายตาของพ่อแม่ตลอด เวลากลับจากโรงเรียนมาอยู่ที่บ้านจะถูกห้ามไม่ให้ออกจากบ้าน ถ้าต้องไปข้างนอกแถวบ้านก็จะถูกจับเวลา ทำให้ส้มไม่เข้าใจรู้สึกว่าขาดอิสรภาพและอยากจะมีพื้นที่ของตัวเองบ้าง เลยเริ่มแอบหนีออกจากบ้านตอนกลางคืนเพื่อไปขี่มอเตอร์ไซค์เล่นตั้งแต่อายุ 15 ปี มาหยุดตอนที่คุณตาคุณยายจับได้
ซึ่งในช่วงเด็กส้มจะสนิทกับพ่อมากเพราะพ่อสอนทุกสิ่งทุกอย่างให้ดูแลตัวเองเอาตัวรอดในสังคมได้ เป็นเหมือนซุปเปอร์ฮีโร่ แต่เค้าจากไปตั้งแต่เรายังไม่ประสบความสำเร็จส้มเลยเลือกเพลง ‘ลึกสุดใจ’ มาถ่ายทอดความคิดถึงพ่อ พอเข้ามหาวิทยาลัยส้มก็ออกไปอยู่หอ ทำให้ชีวิตเริ่มมีอิสระ ได้เรียนรู้การใช้ชีวิตทั้งการไปเที่ยวกลางคืน การพูดคุยกับเพื่อนต่างเพศ แต่กลับต้องช็อค เมื่อคุณพ่อฆ่าตัวตายเพราะป่วยเป็นโรคพาร์กินสัน การที่มารายการ The Hidden songs ร้อง เรื่อง ลับ ส้มว่ามันยากที่มาเล่า เราอยากรักษาน้ำใจและความรู้สึกของแม่ไม่ให้รู้สึกไม่ดี แค่ส้มคิดว่าการที่ได้มาแชร์เรื่องราวของตัวเองวันนี้ น่าจะเป็นประโยชน์กับพ่อแม่ในการเลี้ยงลูกโดยไม่ปกป้องมากเกินไป(over protected)เปรียบดั่งการถูกกักขังด้วยความรักเพราะคิดว่าถ้าเราเก็บเรื่องราวไว้กับตัวจะไม่เป็นประโยชน์ เรื่องราวที่เป็นความจริง แล้วถ้าเราทุกคนเมินเฉยต่อความจริงมันจะไม่เกิดการพัฒนา ส้มรู้สึกสนุกมาก ทั้งพิธีกรและคุณหมอน่ารัก นอกจากการเปิดใจรับฟังเราแล้วยังให้มีคำแนะนำดีๆ จากคุณหมอให้เลี้ยงลูกโดยให้เรียนรู้ทั้งทักษะทางวิชาการและการใช้ชีวิต เพื่อให้เค้าใช้ชีวิตได้ในสังคม ซึ่งสามารถติดตามรายการได้เร็วๆ นี้