เอ็กซ์คลูซีฟ! ติ๊ก ชีโร่ สร้าง Lomabin ศูนย์ผลักดันคนมีฝัน อยู่วงการเพลงมา 36 ปี ถึงเวลาแล้วที่จะผลิตสมบัติชาติ
เป็นอีกหนึ่งค่ายเพลงที่น่าจับตามองเป็นอย่างมาก สำหรับ Lomabin ซึ่งได้นักร้องรุ่นใหญ่อย่าง ติ๊ก ชีโร่ , เป๊ก วงซีล อั๋น ผู้บริหารค่าย DUCKBAR และ ป้อ ผู้บริหารค่ายก้านคอคลับ ร่วมมือเปิดค่ายเพื่อผลักดันคนที่มีความฝันและมีความสามารถแต่ยังขาดเวทีที่จะแสดงออก เพราะค่าย Lomabin เป็นค่ายเพลงที่มีศิลปินตั้งแต่อายุเลขตัวเดียว ไปจนถึง 60 ปีเลยทีเดียว ซึ่งทาง TrueID ได้สัมภาษณ์ออนไลน์ หนึ่งในผู้ก่อตั้ง Lomabin ติ๊ก ชีโร่ ในการคิดทำค่ายขึ้นมา พร้อมกับ แอนโทนี่ เหว่ย ศิลปินร่วมค่าย Lomabin เจ้าของเพลง ฝืนยิ้ม รวมทั้ง กบ FLAT BOY ที่ได้มาร่วมฟีเจอริ่งในเพลง ฝืนยิ้ม ซึ่ง ติ๊ก ชีโร่ ได้เปิดเผยที่มาที่ไปของ ค่าย Lomabin ว่า
ความเป็นมาของค่าย Lomabin (โลมาบิน)?
ติ๊ก ชีโร่ : เนื่องด้วยเราเองก็งานในวงการดนตรมีมาประมาณ 36 ปีแล้ว เราก็มีเพื่อนฝูงอยู่เยอะมากเลย วันหนึ่งก็อยากจะเจอกับอั๋น (ผู้บริหารค่าย DUCKBAR) ในเครือของจีเอ็มเอ็มแกรมมี่ พอเราได้มีโอกาสได้เจอกัน เราก็เลยชวนกันมาทำค่ายเพลงดีกว่า เพราะว่าตอนนี้มันเหมือนกันยุคนึงที่เราเปลี่ยนจากเทปมาเป็นซีดีเปลี่ยนจากซีดีมาเป็นการดาวน์โหลด แล้วยุคนี้มันเป็นยุคล่าสุดเลย อั๋นก็เลยบอกว่าเอาซิเรามาช่วยกันทำงาน จากนั้นผมก็ได้รู้จักกับป้อ เป็นผู้บริหารค่ายก้านคอคลับ แล้วก็ได้มาเจออีกคนหนึ่งก็คือ เป๊ก วงซีส ก็เรียกว่าเป็นเก้าอี้ครบ 4 ขาก็เลยเรียกว่าเป็นสนามสำหรับคนดนตรีจะได้มาทำงานไปด้วยกัน พอเราฟอร์มทีมได้ครบ 4 คนแล้ว เราก็เลยแตกแยกไปอีกทางด้าน Engagement ทางฝ่ายของการดูแลศิลปิน ครีเอทีฟต่างๆ อะไรทำนองนี้นะครับ ผลสุดท้ายเราก็ตัดสินใจ Lomabin ขึ้นมา
ทำไมถึงใช้ชื่อ Lomabin?
ติ๊ก ชีโร่ : ผมว่ามันน่ารักดี แล้วถ้าใครเคยดูหนังเรื่องโลมาเพื่อนรักสมัยก่อนนะครับ สมัยนั้นฮิตไปทั่วบ้านทั่วเมือง และที่สำคัญก็คือโลมาเป็นสัตว์ที่มีความใกล้ชิดกับมนุษย์มาก และเขาก็จะอยู่ด้วยกันเป็นฝูง สื่อสารกันด้วยเสียงเพลง แล้วที่สำคัญเขาเป็นสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมที่ไม่ใช่ปลา และเราก็เลยรู้สึกว่านอกจากภาพลักษณ์ของโลมาแล้ว แล้วเราก็อยากให้ศิลปินของเราสามารถกระโดดข้ามท้องทะเลของเสียงดนตรีจากอีกทะเลไปอีกทะเล เราก็เลยติดปีกให้โลมาซะเลย เลยกลายเป็นโลมาบินด้วย ซึ่งแนวคิดของพวกเราก็คืออยากทำอะไรให้มีความสุขอยากจะสร้างฝันของคนที่มีให้สำเร็จให้จงได้ แล้วเราก็ได้เปิดตัวเพลงของค่ายเรา นั้นก็คือเพลงไม่จำกัดอายุ
คอนเซ็ปต์ของค่าย Lomabin คืออะไร?
ติ๊ก ชีโร่ : จริงๆ ก็คือเป็นการสอดคล้องกับชีวิตของยุคปัจจุบัน มีมาตั้งแต่ยุคเทปยุคซีดี และมาถึงยุคนี้ก็เป็นยุคโซเชียลมีเดีย มีอิทธิพลต่อการดำเนินชีวิตอย่างมากเลยนะครับ แล้วก็ผมกำลังมองอย่างหนึ่งว่าเด็กรุ่นใหม่ที่มีฝีไม้ลายมือน่าจะให้โอกาสเขา โอกาสของเด็กรุ่นใหม่คือสิ่งที่ใหม่และวิเศษมากเลยนะครับ เพราะว่าเรามีตั้งแต่อายุ 12-18 และตอนนี้ถึง 60 แล้ว แล้ไม่ต้องบอกนะครับว่า 60 คือใคร (หัวเราะ) ต้องบอกเลยว่าเด็กยุคใหม่มีความเชี่ยวชาญในการทำเพลง มีความเชี่ยวชาญในการร้องเพลงแล้วก็เป็นยุคของเขาครับ ต้องยอมรับว่า 3-4 ขวบเขามีมือถือเล่นแล้ว เพราะฉะนั้นความเชี่ยวชาญของโซเชียลมีเดียจะมา แล้วก็เป็นจุดหนึ่งที่อยากช่วยเหลือศิลปินด้วย อันนี้เป็นอีกจุดหนึ่ง แล้วเราทำวันนี้ออกมาเราก็ไม่ผิดหวัง เราเห็นเด็กๆ ที่อายุตั้งแต่เลขหนึ่งตัวจนถึงสองตัวได้มีโอกาสมาได้สำแดงฤทธิ์เดชและได้มาแสดงผลงานของตัวเอง ในสนามเด็กเล่นที่มีชื่อว่า Lomabin เพราะฉะนั้น ในวันนี้ผมเชื่อว่าเราจะค่อยๆ ทยอยปล่อยเพลง ออกมาเรื่อยๆ
ในการสื่อสารกับน้องๆ ในค่ายมีอุปสรรคไหมเพราะมีเด็กๆ ด้วย?
ติ๊ก ชีโร่ : ไม่มีอุปสรรคอะไรเลยครับ มีแต่สิ่งสวยงามมีแต่สิ่งน่ารัก อันดับแรกต้องบอกว่าก็เหมือนผู้ปกครองของเด็กๆ ทั้งหมดเลย เรามีทั้งหมด 3 ยูนิต ยูนิตS ยูนิตC แล้วก็ยูนิตU ก็จะแยกไป 3 กลุ่มนะครับ รอบแรกก็มาร่วมในการทำงานด้วยกันเสมอๆ นะครับ เพราะว่าก็ยังเป็นเยาวชนอยู่ ส่วนเวลาที่เราเห็นน้องๆ เวลาที่เขาอยู่รวมกันมีความสดใสน่ารักมีความเป็นเพื่อนสูง แล้วน้องๆ เด็กๆ เนี่ยเขานัดกันมาที่บริษัทแล้วก็มาแต่งเพลงกัน อันนี้เป็นเหมือนสนามเด็กเล่นจริงๆ นะครับ เหมือนท้องทะเลแห่งเสียงดนตรีที่เด็กๆ มามีความสุขกัน เราก็มองภาพไปว่าถ้าเราสามารถทำให้เป็น Hub เพลงของภูมิภาคนี้ในอาเซียน เอเซียได้ หรือระดับโลกได้ก็น่าจะเป็นไปได้นะครับ ถ้าเรามีความฝัน ผมเชื่อเหลือเกินนะครับว่าโลกนี่มันเล็กลงเรื่อยๆ การติดต่อสื่อสารก็ไม่ได้ยากเหมือนสมัยก่อน
น้องๆ ที่อยากร่วมค่าย Lomabin ต้องมีคุณสมบัติอะไรบ้าง?
ติ๊ก ชีโร่ : คือเราไม่ใช่แค่คนตัดสินใจแค่คนเดียว เราตัดสินใจด้วยอีกทีมงานของเราหลายๆ คนแล้วก็อย่างลักษณะของเหว่ยเนี่ยก็เป็นคนที่ใช้ความสามารถจริงๆ ถ้าทกุคนได้ฟังเพลงของเหว่ยแล้ว การจะเป็นศิลปินจะว่าง่ายก็ง่ายจะว่ายากก็ยาก ในยุคสมัยก่อนในการจะเป็นศิลปินบางคน ก็จะต้องให้ครูเพลงเฝ้าดูว่าเป็นคนนิสัยยังไงอดทนมั้ย แล้วก็สามารถร้องเพลงได้แบบไหนแล้วเพลงแบบไหนที่จะเหมาะกับเขาประมาณนี้ แต่ก็มีบางคนที่ดังขึ้นมาเขาเรียกว่าเก่งกับเฮงผสมกันหลายๆ คนเลยที่ตามเขาไปที่ห้องอัดแล้วตัวเองได้อัดเสียงเป็นไกด์แล้วสุดท้ายก็กลายเป็นศิลปินโด่งดังไปเลยครับ อันนี้ก็มี แต่ว่าสำหรับน้องๆ เวลาเราดูประวัติแล้วเรียกให้เขามาออดิชั่นเนี่ย บางคนก็เรียนบัลเลต์มา เล่นกีต้าร์ แต่งเพลง บางคนก็ทำบีชขายเอาไปขายในโลกโซเชียลบ้าง บางคนก็แต่งแร็พเอง หรือสามารถเล่นดนตรีได้ 12 ชนิด แบบนี้ไม่สนับสนุนก็ไม่รู้จะว่ายังไงแล้ว นี่เป็นคุณสมบัติของชาติที่เราต้องภาคภูมิใจครับ
ในช่วงสถานการณ์โควิด อาจจะมีบางคนที่ไม่คิดที่จะทำธุรกิจตอนนี้ แต่ทำไมถึงคิดที่จะเปิดค่ายในช่วงนี้?
ติ๊ก ชีโร่ : หลายๆ คนนักธุรกิจหลายๆ คน หลายๆ ครั้งที่เขาสร้างธุรกิจออกมาในช่วงที่ไม่เหมาะสม ในช่วงเวลาที่คนไม่เข้าใจในช่วงเวลาที่คนนึกไม่ถึงก็มีเยอะนะครับ คนที่ประสบความสำเร็จมากๆ ก็มีเยอะ คนที่ไม่ประสบความสำเร็จก็ ส่วนคนที่ไม่ทำอะไรเลยก็มีนะครับ คนที่ไม่ทำอะไรเลยก็คงไม่รู้ว่าความสำเร็จมันอยู่ไหน แล้วก็อุปสรรคต่างๆ มันก็มีแน่ๆ ไม่ใช่ว่าไม่มีเลย ยิ่งในสถานการณ์โควิด-19 สถานการณ์ที่เม็ดเงินหลุดลอยหายไป สถานการณ์ที่คนเดินทางไม่ได้ สถานการณ์ที่เรายังถ่ายทำรายการทีวี ภาพยนตร์ ละคร ไม่ได้สะดวกสบาย มันก็มีบางสิ่งบางอย่างที่มันกระตุ้นทำให้เราบอกว่าเป็นการกระตุ้นในสิ่งที่เราทำในช่วงที่ไม่มีใครคาดคิด ไม่มีใครคาดหวัง มันก็อาจจะทีบางสิ่งบางอย่างที่เป็นจุดดีก็ได้ แล้วเราก็จะลืมจุดด้อยไป เพราะว่าเราก็จะมีความมุ่งมั่นมีความปรารถนาที่จะสร้างงานนี้ เนื่องด้วยมันเป็นโลกยุคใหม่ เราเลยใช้คำว่าดิจิตอลไลฟ์สไตล์ หมายความว่าน้องๆ ในนี้ก็จะสอดคล้องกัน ในวิถีทางของน้องๆ เขา เราก็เอาประสบการณ์ของเรามารวมกับน้องๆ ผมก็ยังคิดอยู่ว่าช่วงเวลานี้มันก็ท้าทาย แต่ว่าก็เหมาะสมแล้วครับ เหมาะสม เพราะว่าเราเองก็ทำจากความมุ่งมั่นจากความตั้งใจ ผมเชื่อว่าอุปสรรคใดๆ ก็จะไม่สามารถมาขวางกั้นเราได้ มันต้องมีทางออกมันต้องมีทางไป
ด้าน เหว่ย และ กบ เผยถึงการทำงานกับค่าย Lomabin รวมทั้งในการทำเพลง ฝืนยิ้ม ว่า
ทำงานกับ พี่ติ๊ก ในเพลง ฝืนยิ้ม เป็นยังไงบ้าง?
เหว่ย : มิวสิควีดีโอปล่อยไปแล้ว กระแสจากแฟนเพลงก็ดีครับ ค่อยๆ เป็น ค่อยๆ ไป ชิลๆ
ความเป็นมาของ ฝืนยิ้ม?
เหว่ย : ตอนแรกก็รู้จักกบก่อน ตอนนั้นยังไม่ได้ร้องเป็นอาชีพอะไรเลย ผมก็ยังเรียกไม่จบ ผมก็เลยไปเรียนต่อที่เซนต์มาร์ตินส์ กลับมาอีกทีก็เลยได้เจอกบ แต่ตอนนั้นยังไม่ได้ทำงานร้องเพลงกลางคืน ก็คือไปเจอกบไปดูกบบ้าง จากนั้นก็เริ่มเปลี่ยนมาร้องเพลงดูครับ แล้วคิดว่าเราทำได้ พอได้ร้องเพลงก็เลยขยับมาเริ่มทำเพลงเองบ้าง เพลงแรกก็คือนักรัก จนได้มาออดิชั่นที่ Lomabin ครับ จริงๆ ผมไม่ได้ตั้งใจจะมาออดิชั่น จริงๆ ผมมาส่งพี่ที่เป็นนักดนตรีกลางคืน ทีนี่เจอพี่ที่รู้จักเขาก็เลยบอกว่าเออเหว่ยลองปล่อยเพลงของเราให้เขาฟังไหม เผื่อจะติดจะได้มีคนผลักดัน ผมก็เลยออดิชั่นในวันนั้นแล้วก็คือผมก็ติดครับ ได้ร่วมงานกันครับ
เพลงฝืนยิ้มใช้เวลาแต่งนานไหน?
เหว่ย : นานเหมือนกันครับ เพราะว่าเราเพิ่งเริ่มทำเพลง ก็เริ่มประชุมเริ่มคุยกับพี่เขาว่าเราจะเอาเป็นเวย์ไหนยังไงดี เพราะว่ามันเป็นเพลงที่สองสำหรับผม แล้วผมก็ทำออกมา เพราะผมคุยกันว่าผมอยากได้เพลงช้า อยากได้เพลงเศร้าผมก็เลยคิดคอนเทนต์ว่าอะไรยังไงดี เสร็จก็มาทำด้วย แต่พอมาฟังแล้วเรารู้สึกว่าเราน่าจะใส่ในท่อนแร็พเข้าไปนะ ก็เลยนึกถึงกับเลย แล้วก็โทรหาว่ามาช่วยงานหน่อย กบช่วยได้ไหม กบก็ตอบมาว่าช่วยได้ ไม่มีปัญหาจะได้มาร่วมงานกัน แล้วก็ได้พระเอก MV เป็นน้องชายพี่ตู่ ภพธร ครับ
กบ FLAT BOY : ตอนเหว่ยโทรมานี้ขนลุกเลยนะครับ เพราะนึกว่าจะโทรมาชวนไปแหล่งอโคจรอีกแล้วนะครับ (หัวเราะ)
มิวสิควีดีโอออกไปแล้วกระแสตอบรับที่ออกมาเราพอใจไหม?
เหว่ย : พอใจครับ แล้วเราก็พยายามดันไปเรื่อยๆ ครับ แล้วเพลงต่อไปผมก็ทำใกล้จะเสร็จแล้วแหละ
ในการถ่ายทำ MV ในช่วงสถาการณ์โควิดมีอุปสรรคไหม?
เหว่ย : มีครับ เพราะว่าตอนช่วงประมาณหลังจากเริ่มมีสถานการณ์โควิดรอบที่3 เพราะว่าเราต้องเริ่มขออนุญาตในการถ่ายทำแล้วก็จำกัดคนซึ่งมันก็เลยทำให้การทำงานมันยากกว่าปกติอยู่ค่อนข้างมาก เพราะว่าเราก็ต้องทำงานแข่งกับเวลา และเซฟด้วยเพราะว่าเราไม่ได้ขอกันได้บ่อยๆ เราต้องทำให้เสร็จภายในวันเดียวครับ เราถ่ายทำวันเดียวเสร็จเลยครับ แต่ว่านานมากเลยครับ ตั้งแต่ 6 โมงเย็นถึง ตี5
ฐานแฟนๆ ของ กบ มีอยู่แล้ว พอมาได้ร่วมงานกับเหว่ยแฟนๆ ว่ายังไงบ้าง?
กบ FLAT BOY : แฟนๆ ก็บอกว่าดีครับ เขาชอบ มีคนรู้จักก็โทรมาบอกว่าชอบเพลงนะ เป็นกระแสตอบรับที่ดีครับ (ต่างหรือเหมือนการทำเพลงของเรายังไงไหม?) จริงๆ ผมว่ามันเหมือนกับเราเล่าคนละแบบครับ พอเป็นเพลงของผมผมก็จะเล่าเรื่องของผม ผมจะเล่าเรื่องในแบบของผม ใช้โครงของผมเป็นคนเล่า แต่พอมาเป็นเรื่องเพลงของคนอื่นที่เราต้องฟีจเจอริ่งมันก็จะเป็นแบบว่าผมมองเรื่องนั้นแล้วก็เล่าในแบบของผม คือผมเป็นคนที่มองเรื่องนั้นแล้วนำมาขยายอีกทีหนึ่งครับ ประมาณนั้น มันเป็นวิธีการของมันก็จะต่างกัน
ใส่ความเป็นตัวตนของเราไปยังไงบ้าง?
กบ FLAT BOY : จริงๆ ผมก็ใส่ในส่วนของภาษาที่ผมใช้อยู่แล้วในเพลงที่ทำมา ก็เหมือนเป็นคนที่เห็นเรื่องราวในเพลงนี้แล้วผมก็เล่าออกมา โดยใช้คำพูดตัวเองประมาณนั้นครับผม (เหมือนเป็นเรื่องในชีวิตจริงด้วยไหม?) มีบ้างครับ มีบ้างบางจังหวะ
ในการอัดเสียงเพลง ฝืนยิ้ม มีอุปสรรคไหม ด้วยสถานการณ์โควิด?
เหว่ย : ตอนแรกเราก็ส่งงานกันก่อนครับ แล้วก็คือเหว่ยจะเว้นช่องว่างไว้ให้กบ ให้กบตีควาหมายของเพลงให้เหว่ยในส่วนของกบเองว่าให้กบใส่อะไรก็ได้ ใส่เข้าไปแล้วเราก็มานั่งฝังกันอีกทีว่า มันก็โอเค ทุกคนฟังแล้วก็โอเครับ พอโอเคแล้วก็นัดกบเข้ามา อัดเสียงปุ๊บวันเดียวก็จบเลยครับ
มาร่วมฟีเจอริ่งกับเหว่ย งานเพลงของ กบ จะมีไหม?
กบ FLAT BOY : มีครับ เดี๋ยวมีเพลงเดี่ยวน่าจะปลายปี เหมือนว่ากำลังจะลองปรับ กำลังจะลองอะไรหลายๆ อย่างครับ คิดว่าน่าจะหลังจากปลายปีก็คงได้เจอกันยาวๆ ครับ อีกหลายเพลงเหมือนกัน (ตอนนี้เป็นโปรดิวเซอร์อยู่ค่ายB Entertainment BEAT?) ถือว่าเป็นบทบาทใหม่ครับ และก็ถือว่ายังเป็นมือใหม่อยู่ ก็คงต้องใช้เวลาเรียนรู้ไปอีกพักใหญ่ๆ เลยครับ (ปลายปีนี้อาจจะได้เห็นเพลงแนวใหม่ของ กบ Flat Boy?)ใช่ครับผม
พร้อมกันนี้ทั้ง 3 คนฝากผลงาน
ติ๊ก ชีโร่ : ก็ในฐานะของ Lomabin นะครับ ก็ขอฝากชาว Lomabin ไว้ด้วยนะครับ เรามีศิลปินถึง 23 คน วันนี้เราก็จะทยอยออก แล้วก็ฝากไว้อยู่เสมอนะครับว่า พวกเราเป็ตมิวสิคเลิฟเวอร์เป็นคนที่รักดนตรีและก็เข้าใจทางด้านเสียงเพลง ให้ให้โอกาสเรา แล้วเราก็จะได้มีพลัง ในการก้าวเดินต่อไป เพราะฉะนั้นในวันนี้จากที่ เราได้มุ่งมั่นตั้งใจแล้ว สำหรับเพลงไม่จำกัดอายุก็สามารถติดตามได้ทุกช่องทางก็จะง่ายที่สุดก็จะเป็นยูทูป ถึงอย่างไรเราก็ยังเป็นนักดนตรี ถึงอย่างไรเราก็ยังเป็นนักร้อง ถึงอย่างไรเราก็ยังเป็นคนที่ผลิตดนตรีทีดีนะครับ เพราะผมก็เกิดมาจากคนดนตรี และผมก็จะทำดนตรีจนลมหายใจสุดท้าย
เหว่ย : ยังไงผมก็ฝากเพลงฝืนยิ้มด้วยนะครับ แล้วก็เพลงนี้จริงๆ เป็นเพลงที่ตั้งใจมากๆ เลยนะครับ แล้วก็มิวสิควีดีโอครับ ทุ่มเทมากครับก็ฝาก MV ฝืนยิ้มด้วยนะครับ เขาไปปั้มวิวกันเยอะๆ นะครับ ขอบคุณมากนะครับ
กบ FLAT BOY : ยังไงผมก็ฝากเป็นค่ายเลยแล้วกันนะครับ ขอฝากค่าย B Entertainment BEAT เป็นค่ายน้องใหม่ แล้วก็จะมีผลงานเพลงออกมาให้ฟังกันอยู่เรื่อยๆ นะครับ แล้วก็อาจจะมีผลงานสนุกๆ ร่วมกับพี่ๆ ด้วยนะครับ อีกหลายท่านนะครับผม
ฟังเพลงออนไลน์ เพลงใหม่ ได้แล้ววันนี้บน TrueID ทั้ง เว็บไซต์ และ แอปพลิเคชัน
กดเลย >> community แห่งความบันเทิง 📸เมาท์ข่าวดารา กับเจ๊รุงรังขังรวม
ทั้งข่าว หนัง ซีรีส์ 🍿ละคร ดนตรี และศิลปินไอดอล 😍ที่คุณชื่นชอบ บนแอปทรูไอดี
อ่านข่าวอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง :