รีเซต

รอดตายหวุดหวิด! เอกราช สุวรรณภูมิ รถชนเฉียดตาย เชื่อรอดมาเพราะสิ่งที่บูชา (มีคลิป)

รอดตายหวุดหวิด! เอกราช สุวรรณภูมิ รถชนเฉียดตาย เชื่อรอดมาเพราะสิ่งที่บูชา (มีคลิป)
MusicHot
9 มกราคม 2563 ( 15:45 )
943
1

นักร้องลูกทุ่ง รุ่นใหญ่มากความสามารถ ที่ถือเป็นนักร้องลูกทุ่งตัวพ่อ เอกราช สุวรรณภูมิ เจ้าของ เพลงฮิต อย่าง “กระเป๋าแบนแฟนทิ้ง” เผยชีวิตหลังโด่งดังมีเงินทองมากมาย แต่หลงผิดฟุ่มเฟือย ทำธุรกิจมีแต่ขาดทุนจนเกือบหมดตัว จากชีวิตที่เคยสุขสบายต้องกลับไปทำนา แถมยังมีประสบการณ์เหลือเชื่อเสี่ยงตายแต่ได้สิ่งศักดิ์สิทธิ์คุ้มครอง ล่าสุด เอกราช สุวรรณภูมิ ได้มาเปิดใจผ่านทางรายการ คุยแซบSHOW ทางช่อง ONE31 ที่มี ใบเฟิร์น พัสกร และ เบนซ์ พรชิตา เป็นพิธีกร

 

เอกราช สุวรรณภูมิ

 

เปลี่ยนชื่อ?

เอกราช : ครับเป็นเอกราช หนองงูเห่า เมื่อก่อนสนามบินสุวรรณภูมิมันเป็น สนามบินหนองงูเห่ามาก่อนจะเป็นสุวรรณภูมิเป็นที่เรียบร้อย ผมเกิดที่จังหวัดร้อยเอ็ด อำเภอสุวรรณภูมิ เป็นชื่อมาจากบ้านเกิดเราครับ

 

ตอนเพลง “กระเป๋าแบนแฟนทิ้ง” ดังสุดๆ ไม่มีใครไม่รู้จัก?

เอกราช : สมัยเพลงนี้ขายได้ทะลุ หนึ่งล้านห้าแสนถึงหนึ่งล้านหกแสนม้วน ถ้าเปรียบเสมือนยูทูปสมัยนี้น่าจะเป็นพันไลค์นะไม่ใช่ร้อย หลายล้านวิว

 

สมัยนั้นดังมาก ดังขนาดไหน?

เอกราช : ดังมาก ดังถึงขนาดไปโชว์ตัวเมืองนอกเลยดีกว่า ไปเมืองนอกบ่อย สวิสเซอร์แลนด์ เดนมาร์ค ฝรั่งเศส ออสเตรเลีย อเมริกา ไปหมดครับ เดินสายเลยครับ ถ้าไปเมืองนอกเค้าจะเล่นศุกร์ เสาร์ อาทิตย์ ไปครั้งหนึ่งก็ 1 เดือน เดือนหนึ่งก็ 12 งาน งานละ 200,000 ในสมัยโน้นนะครับ

 

มีฝรั่งวิ่งตามด้วย?

เอกราช : เมื่อสมัยกระเป๋าแบนดังๆ ผมไปโชว์ที่พัทยา เป็นอาหารใหญ่ของพัทยา พอโชว์เสร็จปุ๊ป ขับรถออกมาติดไฟแดง ฝรั่งผู้ชาย วิ่งออกมา เรียกผม เอกราชๆๆ เคาะ มาขอลายเซ็น เค้าพูดภาษาไทยได้ เค้าก็พูดว่า กลับมาทำไม ฉันลืมเธอไปหมดแล้ว ผมต้องเซนต์ให้เค้า ไม่อย่างนั้นเค้าก็เคาะอยู่อย่างนั้น แล้วแฟนเค้าที่เป็นคนไทยก็มาจูงมือดึงออกไป เราภูมิใจนะครับเป็นคนไทยแล้วมีชื่อเสียงที่ต่างชาติชอบ และเค้าก็ร้องเพลงเราได้

 

แม่ยกทุ่ม ขอเลี้ยง ขอดูแล?

เอกราช : คือจริงๆสมัยนู้นที่มีชื่อเสียงก็มีแบบนี้เข้ามา อยากให้บ้าน อยากให้รถ ตอนนั้นเราพอหาได้ วันหนึ่งเราก็หาได้แล้วแสนสองแสน เราก็เอาของเค้าแล้วมันจะมีปัญหาช่วงนั้นชื่อเสียงเราพอมีเราพอหาเงินได้ เลี้ยงดูนี่คือเค้าจะแบบดูแลไปเลย ไปอยู่กับเค้าเลย ซึ่งมันไม่ใช่เราก็ไม่ได้รับตรงนั้นไป 2-3 คน

 

เอกราช สุวรรณภูมิ

 

เอกราช สุวรรณภูมิ

 

เอกราช สุวรรณภูมิ

 

ตอนโด่งดังมากชีวิตติดหรู?

เอกราช : ตอนนั้นเวลามีชื่อเสียงงานหนึ่งไม่ต่ำกว่า 2-3 งาน วันนึงหาได้ต่ำสุดคือ 200,000 บาท จนแบบเราไม่รับงานขอพัก เพราะว่าเสียงมันไม่ไหว แต่ตัวก็อยากได้ตังค์ เราเด็กบ้านนอกคนหนึ่งพอมีเงินล้านก็อยากได้ อยากทำนั่นนี่ อยากจะขี่รถคันแพงๆ โดยที่ไม่คิด พอเลยจะบอกว่าศิลปินถ้ามีเงินหรือดังทุกวันนี้ต้องระวังให้ดี ต้องเก็บ เพราะเราพลาดมาแล้ว ไม่อยากให้เจอเหมือนเราที่เราพลาดมา

 

เงินในบัญชียอดที่สูงที่สุด?

เอกราช : คือจริงๆแล้วเราเป็นเด็กบ้านนอกคนหนึ่ง พันหนึ่งเมื่อสมัยก่อนเรายังไม่มีเลยนะ พอเรามีชื่อเสียง มีเงินเป็นหมื่น เป็นแสน เป็นล้าน เงินฝากนี่เป็นไม่รู้หลักหลายล้าน แล้วเราก็แบบจะทำอะไรดี ไปเปิดร้านอาหารไหม หรือจะปลูกมันสำปะหรัง แต่เราเอาไปซื้อรถ ผมเล่นรถมาแล้ว 30 คัน ซื้อเปลี่ยนๆ เบนซ์ บีเอ็ม หลายยี่ห้อ แล้วเงินเราหมดกับรถทีละล้าน ทีละสี่แสน ทีละสามแสน ขับคนเดียวครับเพราะผมเป็นคนชอบรถมาก

 

ทำธุรกิจด้วย?

เอกราช : ครับเอาไปปลูกมันสำปะหลัง ไปเช่าที่เค้า 100 ไร่ แล้วเราก็เอาไปปลูกมันสำปะหลัง แรกๆก็ได้กำไรดีครับแสนสองแสน หลังๆมามีแมลงกินบ้าง หน้าเศรษฐกิจบ้าง มันก็ขาดทุน เราไม่มีเวลาไปดูแลเองมันเสียตรงนี้ ถ้าเราทำไร่แล้วเราเอาใจไปใส่ให้เค้ามันจะอยู่ตัวหรือได้กำไรแน่นอน แต่ถ้าเราไม่มีใจหรือไม่มีเวลาให้เค้ามันก็แบบนี้

 

 

ตอนปลูกมันสำปะหลังเรามีความรู้ในเรื่องตรงนี้บ้างไหม?

เอกราช : ไม่มีครับ มีแต่รู้จักเพื่อนๆ มันมาจากแฟนเพลงแนะนำบ้างว่าทำไมไม่ไปทำมัน ปลูกมัน เค้าทำมันกันรวย พอลองทำดูมันขาดทุนเป็นล้าน ทำประมาณปีกว่าสองปีครับ หยุดไปสักพักได้เงินมาอีกก็ไปเปิดร้านอาหาร

 

ร้านอาหาร?

เอกราช : ครับเป็นร้านอาหารอีสานไทย เปิดอยู่ที่ทาวน์อินทาวน์ บูมมากครับช่วง 2-3 ปี แต่พอเข้าปีที่สี่เรื่อยมาขาดทุนทุกเดือน ไม่มีเวลาไปดูทุกวัน เดือนหนึ่งเข้า 2 ครั้งแต่ให้พี่น้องดู ขาดทุนไปเรื่อยๆ หมดไป 2 ล้านกว่าก็ต้องปิดไป

 

มีธุรกิจอื่นอีก?

เอกราช : ปลาร้าสับ ของพี่จะไม่ใส่สารกันบูด ทานได้แค่ 2 เดือน พอเข้าเดือนที่ 3 มันขึ้นราแล้ว ลงทุนไปประมาณ 4-5 แสน ทำไปสักเกือบปี พอเดือนที่ 3-4 แฟนคลับก็มาบอกว่าปลร้าขึ้นรานะ เพราะว่าเราไม่ใส่สารกันบูด ตอนแรกมันก็ดีแต่มันก็มีข่าวโน่นข่าวนี้ปลาร้ามีพยาธิ ข่าวปลาร้ามีตัวจี๊ด สารพัดอะไรขึ้นมา มันก็หายเงียบถอยไป หมดไปกับปลาร้าประมาณ 7 แสน

 

ธุรกิจยังมีอีก?

เอกราช : มีครับ ช่วงนั้นผมหายไป 3 ปี ผมไปซุ่มทำเองลงทุนเอง

 

ช่วงที่ทำธุรกิจแล้วไม่รุ่ง ช่วงนั้นยังมีคอนเสิร์ตไหม?

เอกราช : มีครับแต่เริ่มบาง เพลงเราก็เงียบๆไปในช่วงฟองสบู่แตก งานเงียบหมดทุกอย่าง เพลงก็เงียบ เป็นช่วงที่ตกต่ำเกือบสุด ผมก็ไปอยู่บ้าน ไปทำนา พ่อกับแม่มีนาให้ ทำประมาณ 6-7 เดือนเหนื่อยมาก เปลี่ยนชีวิตเลยด้วยเศรษฐกิจเราไม่มีเพลงออก ฟองสบู่แตกด้วย บริษัทเพลงก็ปิดตัวไปหลายบริษัท

 

ตอนนั้นตังค์หมดไหม?

เอกราช : ไม่หมด แต่ว่าไม่เหลือหลักล้าน เรากลับไปอยู่บ้านสัก 2-3 ปี ไปทำนา 6 เดือนไม่ไหวแสบหลังร้อน หน้าขึ้นฝ้าเลย คิดถึงตอนร้องเพลงขึ้นมาเลย

 

จากนักร้องดังได้วันละเยอะต้องกลับไปอยู่บ้าน?

เอกราช : ตอนเด็กเราเป็นนักร้องมา เราไม่เคยเหนื่อย เราไม่เคยทำนา เราไม่เคยแบกหาม เรามีชื่อเสียงปุ๊ปมันก็สบายมาตลอด พอเรากลับไปทำตรงนั้นมันรู้สึกทรมานมาก เหนื่อยตากแดดตากลม แบบขนาดนี้เลยหรอ จน 3 ปีที่ทนมา ผมยังเหลือทุนอยู่นิดนึง ก็เลยมาร้องเพลงอีกรอบ ทำเองเลยคราวนี้

 

เป็นนักร้องดังกลับมาชีวิตแบบทำนา?

เอกราช : ทุกอย่างเราลงทุนหมดไม่เคยได้กำไรมีแต่ขาดทุน หาเงินได้มาแสนสองแสนไม่ได้หาง่ายๆต้องเสี่ยงขับรถตะลอนๆ ตามท้องถนนกว่าจะได้มา กลับดึกดื่น พักผ่อนไม่เพียงพอ มันเหนื่อย มันล้า มันท้อ ช่วงนั้นบริษัทเพลงก็ปิดตัวไปหลายที่ เพลงลูกทุ่งก็หายไปพักนึง พี่ก็ไปอยู่บ้านนอก ไปอยู่กับพ่อแม่ก็ทำนาปลูกผัก

 

เอกราช สุวรรณภูมิ

 

เอกราช สุวรรณภูมิ

 

เอกราช สุวรรณภูมิ

 

เคยร้องไห้ไหม?

เอกราช : เราเป็นลูกผู้ชายก็จริง แต่น้ำตามันจะอยู่ข้างในมากกว่า มันจะไม่ร้องให้ใครเห็น แต่ถ้าคนเดียวร้อง เราบอกกับตัวเองว่าคนเราเป็นแบบนี้หรอ ขึ้นจนสุดแล้วตกจนสุดเลยหรอ แต่เราก็คิดว่าเรามีพ่อมีแม่พี่น้องที่ให้กำลังแรงใจ พี่น้องทั้งหมด 12 คน แล้วช่วงที่ผมมีชื่อเสียงพี่น้องผมช่วยแทบทุกคน ผมดูแลพ่อกับแม่จนพ่อกับแม่ไม่อยู่ ผมต้องพามาหาหมอที่รามคำแหงแทบทุกเดือน เราก็ยังมีบุญวาสนา เราเลยกลับขึ้นมาอีกรอบหนึ่ง มาเป็นนักร้องอีกรอบนึง

 

กัดฟันสู้อีกรอบหนึ่ง?

เอกราช : พ่อกับแม่ให้พรสวรรค์มาแล้ว เพื่อนที่อยู่บ้านนอกบอกจะทำนาทำไมเสียงขนาดนี้ ขึ้นมากรุงเทพเลย เราก็บอกเค้ายังมาไม่ได้หรอก เราบอกเค้าทุกอย่าง เพราะหลายอย่าง ลูกทุ่งมันหายไปบริษัทก็ปิดตัวไปหลายที่แล้ว ก็เลยรอสักพักนึง

 

การใช้ชีวิตเปลี่ยนไปเลยเมื่อรายได้ลดลง?

เอกราช : ผมรู้สึกว่าเราขึ้นมากรุงเทพ เราก็มาแต่ตัว ในเมื่อเราไม่มีอะไรก็ไม่เป็นไร ในเมื่อเรามาแต่ตัวอยู่แล้ว พอกลับเราก็กลับแต่ตัว แต่ในความรู้สึกของเราเป็นนักร้องที่มีชื่อเสียง แล้วทุกคนมีบ้านมีที่มีที่ทำกิน แล้วเราจะท้อทำไม เราต้องสู้อีกรอบเพื่อให้เงินที่เราสูญเสียไปกลับมา พอเรากลับมาก็ทำอัลบั้มชุดเจียละออ เป็นภาษาเขมร เป็นเพลงที่มีคุณภาพ เป็นเพลงหัวกะทิของครูบาอาจารย์ที่โด่งดังมา นำเพลงเก่าๆมาร้อง

 

หลังจากกลับบ้านแล้วฮึดใจสู้อีกรอบ?

เอกราช : ผมมีรถคันหนึ่งเป็นบีเอ็มซีรีย์ 5 เอารถไปเข้าไฟแนนซ์เลย ผมก็ทำเพลงน้ำพริกถ้วยเก่า เป็นเพลงลูกทุ่ง แต่กระแสไม่ดี เพราะยุคสมัยมันเปลี่ยน เปลี่ยนการฟัง ทุกวันนี้ฟังอีสานอินดี้เป็นเพื่อชีวิตนิดๆสนุกๆ แต่เราร้องไม่ได้ เราก็เป็นแนวเราแต่ถือว่าไม่ขาดทุน ยังมีแผ่นซีดีเอาไปขายตามคอนเสิร์ต ขายได้เฉพาะรุ่นพ่อรุ่นแม่ ไม่มีวัยรุ่น

 

มีเพลงเขมรด้วย?

เอกราช : เป็นเพลงเก่าเมื่อ 40-50 ปี ก็นำมาขับร้องทำดนตรีใหม่ อันนี้จะมีครูเพลงมาสอนภาษา บริษัทที่ผมอยู่เค้าลองเอาเพลงไทยมาแปลเป็นภาษาเขมร ก็สร้างชื่อเสียงกลับมาอีกรอบหนึ่ง ทุกวันนี้ผมได้กินได้มีงานกับอัลบั้มเจียลออ ทั้งหมด 10 ชุดแล้ว

 

วันที่กระเป๋าแบนครอบครัวไม่ได้ทิ้งไปไหน?

เอกราช : คือไม่ได้ทิ้งก็อยู่ด้วยกันมา คนเราลำบากด้วยกัน รวยด้วยกันก็อยู่ด้วยกัน รักจริงก็ต้องอยู่ด้วยกัน กำลังใจมันอยู่รอบตัวรอบข้าง ไม่ว่าจะเป็นแฟนหรือครอบครัวอยู่ด้วยกันหมดให้กำลังใจเรา เราต้องสู้ด้วยเพราะเราเป็นคนไม่ท้อสำคัญที่สุด

 

ไปขอลูกที่วัดแขกสีลม?

เอกราช : ผมนับถือพระพิฆเณศอยู่แล้วก่อนมาเป็นนักร้อง ก็ไปที่นั่นไปขอลูกท่าน สมัยนั้นช่วงกำลังโปรโมทเพลงกระเป๋าแบน ไปขออยากได้ลูกชายก็ท้อง เพลงกำลังเลยดังมาก ยิ่งลูกคลอดออกมาดังมากเลย ตอนไปขอก็ฝันนะ ว่าพระพิฆเณศเป็นเด็กมีเศียรช้างมากอด บอกพ่อมาแล้วๆ ไปอยู่กับพ่อ ชีวิตก็ดีขึ้นเรื่อยๆดังมาก

 

ตอนรู้ว่าภรรยาท้อง?

เอกราช : คือหลังจากนั้นวันสองวันเราก็ฝัน เราเลยคิดว่าใช่ ก็แบบเราดีใจบุญวาสนา ท่านศักดิ์สิทธิ์มากตอนไปขอลมพายุแรงมาก ผมเอาผ้าสาหรีสีแดงไปถวาย เค้าออกมาตัวใหญ่เหมือนพระพิฆเณศปางเสวยสุขเลย ยิ่งโตขึ้นยิ่งเหมือน ปัจจุบันอายุ 10 กว่าแล้วครับ

 

เฉียดตาย แต่สิ่งศักดิ์สิทธิ์ช่วย?

เอกราช : ช่วงนั้นที่กระเป๋าแบนดังๆ คืนหนึ่ง 2-3 งานหน้าฝนก็ยังมี 2 งาน รีบขับรถ ร้องเพลงที่กรุงเทพขับรถไปกาญจนบุรี มีรถกระบะเบรกกะทันหัน ผมวิ่งประมาณ 140 กลัวไม่ทันงาน เจ้าของงานก็โทรตาม ผมหักหลบไปลงข้างทาง ข้างทางเป็นหญ้าเบรกเอาไม่อยู่ซัดเสาไฟฟ้า เสาไฟฟ้าหักฝาประโปรงรถเปิดแต่ไม่ทิ่มเข้ามาในรถ งัดขึ้นเหมือนคนเปิดให้พระพิฆเณศที่ผมแขวนอยู่กระเด็นหลุดออกจากสร้อยเลยฟาดใส่กระจกหน้า แต่เราไม่เปนไรเลยไม่เจ็บ แต่มีแค่ขาเราที่เบรกแรงแล้วลื่นเป็นแผลนิดเดียว รถต้องยกเครื่องใหม่พังหมด

 

มีอีกเหตุการณ์หนึ่ง?

เอกราช : ไปชุดใหญ่แดนเซอร์ทั้งวงในรถตู้ ผมไปงานภูเก็ตเล่นเสร็จประมาณเที่ยงคืน ผมขับรถมาเจอหมอกควันขาวมาก เลยเปิดไฟสูงหมอกเป็นรูปร่างผู้หญิงขาว ผมยาว เลยหักหลบเกือบลงข้างทางหักกลับอีกรถหมุน อันนี้เป็นผู้จัดการขับ ไม่ถึงสองวิรถตู้เบรกแล้วชน ผมเลยไปดูว่ารถเป็นไรพอไปถึงรถชนต้นไม้ แดนเซอร์แขนหัก พอถามคนขับหัวแตกแต่คุยได้ถามเค้าว่าเห็นหมอกขาวๆเป็นผู้หญิงเหมือนเราเห็นเลย แต่เราไม่เป็นไร ตอนเราหักหลบเราพ้นแต่รถตู้หักหลบไม่พ้น

 

เอกราช สุวรรณภูมิ

 

เอกราช สุวรรณภูมิ

 

 

ยอดนิยมในตอนนี้

แท็กยอดนิยม

บทความที่เกี่ยวข้อง