รีเซต

สรุปทุกประเด็นดราม่า โอตะVIP คำชี้แจงจากผู้บริหาร กับความมั่นใจในระบบไอดอล

สรุปทุกประเด็นดราม่า โอตะVIP คำชี้แจงจากผู้บริหาร กับความมั่นใจในระบบไอดอล
Music Talk
4 พฤศจิกายน 2561 ( 17:20 )
8K
6

จากประเด็นร้อนในอีเว้นท์งานจับมือของ BNK48 วันเสาร์ที่ 3 พฤศจิกายนที่ผ่านมา หลังจากมีบุคคุลหนึ่งโพสต์ภาพลงอินสตาแกรม เป็นผู้ชาย นั่งรถเข็น สวมหน้ากาก (พร้อพของหนังเรื่องหนึ่ง) มาร่วมงานจับมือ และมีภาพกับเมมเบอร์หลาย ๆ คน ช่วงจับมือ ซึ่งโดยปกติแล้ว แฟน ๆ ที่ไปร่วมงานจะมีกติกาห้ามถ่ายรูป ถ่ายวิดีโอภาพในงาน นอกจากนั้นบุคคลในภาพ ยังมีแคปชั่นที่หยาบคายและไม่ให้เกียรติ และมีการพพาดพิงไปถึงผู้ใหญ่ของทางต้นสังกัดกันเลย ซึ่งทั้งหมดนี้ เจ้าตัวได้ลบภาพไปแล้ว แต่แฟนคลับและชาวเน็ต ยากที่จะปล่อยผ่าน แคปภาพและข้อมูลเอาไว้ จนมีการพูดถึงกลายเป็นประเด็นร้อนจากโลกออนไลน์ในเวลาข้ามคืนเลยทีเดียว ล่าสุดวันนี้ จ๊อบซัง ณัฐพล บวรวัฒนะ ผู้จัดการวงของ BNK48 ได้ออกมาไลฟ์ ชี้แจงประเด็นต่าง ๆ ที่เกิดขึ้น รวมทั้งทางฝั่งผู้บริหาร คุณต้อม จิรัฐ บวรวัฒนะ ซีอีโอ บริษัท บีเอ็นเค โฟร์ตี้เอท ออฟฟิศ จำกัด และ คุณโรส ภรรยา ก็ได้ออกาโพสต์ข้อความแสดงความเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และทางคนต้นเรื่อง โอตะ VIP ก็ออกมาชี้แจงเป็นข้อ ๆ เช่นกัน รวมทั้งปิด account ในอินสตาแกรม เป็น Private แล้ว 

 

 

 

สรุปเป็นเรื่อง ๆ จาก จ๊อบซัง

 

1. คนที่เพิ่งมาติดตาม เรื่องนี้เป็นเรื่องของ โอตะ (แฟนคลับ) คนหนึ่ง โดยมี #โอตะVIP ที่เป็นที่พูดถึง มีภาพของเขาออกมา ที่ได้พื้นที่ VIP ค่อนข้างสูงในการจับมือมองออกมา

 

2. โอตะ VIP คนนี้เป็นใคร : แฟนคลับคนนี้เป็นอัมพาตซีกซ้าย เดินได้เแต่ไม่ถนัด ต้องมีคนช่วยเหลือ ถ้าย้อนกลับไป 2 ปีก่อน เขาเป็นคนปกติทั่วไป เกิดอุบัติเหตุ ทำให้เส้นเลือดในสมองแตก ทำให้เขาอัมพาตซีกซ้าย ดังนั้นหมายความว่า ผู้พิการ ไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้ เขามีใบรับรองแพทย์ เท่าที่จ๊อบซังทราบคือ แฟนคลับคนนี้ เขาเก็บตัวจนเพื่อนเขาได้แนะนำให้รู้จัก BNK48 หลังจากได้ดูและติดตามน้อง ๆ ทำให้เขารู้สึกชื่นชม เป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้เขาลุกขึ้นมาต่อสู่กับสิ่งที่เขาเป็นอยู่

 

3. ในเมื่อ #โอตะVIP คนนี้เป็นคนพิการ หรือมีความไม่สมบูรณ์ในด้านร่างกาย แล้วเรามี Priority lane เขามาต่อในเลนนี้ตามปกติ มาใช้บัตรจับมือ ตามทุกคน อยากให้ทุกคนเข้าใจ ท่านนี้ไม่ได้มีความพิเศษกว่าคนอื่น ๆ เลย

 

4. บัตรฟรี ที่เขาบอกว่า เขาจับมือใครก็ได้ เขามีบัตรอะไรก็ได้ จริง ๆ แล้วไม่เป็นความจริง เขามีบัตรจับมือเหมือนทุกคน เรามี Serial code ผู้บริหาร พนักงานทุกคน จะซื้อหรือทำอะไรต้องผ่านจุดนี้ทั้งหมด เขาได้รับบัตรเป็นอย่างไร เท่าที่อ่านไอจีของเขา เขาได้จากเพื่อนที่แนะนำเขามารู้จัก BNK48

 

 

5. รูปถ่ายเกิดขึ้นได้อย่างไร?

จ๊อบซัง: จริง ๆ เรามีตากล้องประจำอยู่แล้ว ส่วนนี้เรามีการถ่ายภาพเก็บบรรยากาศทั้งหมด ซึ่งมีการเก็บภาพบรรยากาศแฟนคลับคนนี้ด้วย แต่ข้อผิดพลาดคือ ภาพที่ถ่ายมันหลุดออกมาไปก่อนเวลาอันควร เพราะสุดท้ายเราต้องมาประเมินภาพกันก่อน แล้วภาพนี้หลุดออกมาข้างนอก ต้องขอโทษด้วยในเรื่้องข้อมูลที่หลุดออกไปโดนไม่ได้มีการกลั่นกรอง รวมถึงเป็นบทเรียนอีกหนึ่งครั้งที่สำคัญของทีมผู้บริหาร ทีมงาน หรือนพนักงาน หรือแฟนคลับคนนั้นเอง มองเห็นว่าเราต้องให้ความเท่าเทียมกับทุกคน เพราะเราทำอยู่บนกฏหมู่ ทุกคนก็ต้องทำตาม

 

6. (สัญญาณขาดหาย) ผมต้องขอโทษน้อง ๆ ด้วยนะครับในฐานะผู้บริหาร

7. ประเด็นที่พูดถึงการเลือกตั้งที่กำลังจะเกิดขึ้น มีความโปร่งใสมากน้อยขนาดไหน ผมจะบอกได้เลย 100% มั่นใจมาก โปร่งใสแน่นอน ทุกครั้งผลที่ออกมา ไม่มีการแทรกแซง ไม่มีการใช้บัตร เป็นผลโหวตจากพลังแฟนคลับจริง ๆ ระบบการโหวต ไม่ใช่ใครก็ได้ที่เข้าไปในถังข้อมูล เราจ้างทำระบบแบบจริงจัง

8. ในเรื่องของ คนพิการ เราเห็นใจเขา ในสิ่งที่เขาไม่มีเหมือนเรา 100% เป็นเจตนารมณ์ของพวกเรา น้อง ๆ ผู้บริหาร ที่เราจะช่วยเหลือสังคม เป็นส่วนเล็ก ๆ ที่จะให้กำลังใจ หรือทำให้เขาต่อสู้กับสิ่งที่เขาเป็น เรามีการสนับสนุนกลุ่มผู้ด้อยโอกาส

9. การใช้คำพูด หรือแคปชั่น ของ โอตะคนนี้ ในส่วนนี้เป็นเรื่องเกี่ยวโยงกับอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นกับตัวเขา ตอนนี้ผมเริ่มสงสารเขาเหมือนกัน เขาเริ่มจะเจออะไรหนักกว่าร่างกายของเขา เขาไม่เต็มร้อยเหมือนทุกคน ตอนนี้ในโซเชียลกำลังทำร้ายเขาอยู่ด้วย

10. เรื่องหน้ากาก ที่โอตะคนนั้นใส่เข้าไป ผมยอมรับเลยว่าเป็นความหละหลวมทั้งทางผมเองและทีมงาน ในการนำหน้ากากเข้าไป แน่นอนว่า เป็นความผิดของทีมงาน ทุกอย่างที่เกิดขึ้นผมเชื่อว่าเป็นบทเรียนที่ดี ทำให้ทุกคนมองเห็นแนวทางตรงกันว่าต้องปรับอย่างไรให้ตรงตามกฏระเบียบให้มากที่สุด เรารับผิดและจะนำไปปรับปรุง การปรับปรุงนี้รวมถึงผู้บริหารทุกคน ทีมงานทุกคน เมมเบอร์ทุกคน ให้รู้ความสำคัญของกฏ รูปแบบที่เราวางไว้ มีหลายครั้งที่ผมยอมรับฟังคำแนะนำ อยากให้ทุกคนช่วยกัน มองด้วยว่า เวลาจะตัดสินใจ เราต้องมองจากกลุ่มคนที่มากที่สุด

11. เรื่องการวางกล้องแอบถ่ายในงานจับมือ เดี๋ยวผมจะไปตรวจสอบอีกที

12. ทำให้เห็นว่าทุกระบบมันควรเท่าเทียมกัน อยากบอกว่า เป็นส่วนที่ทำให้เราต้องเข้มงวดกับทุกอย่างให้มากขึ้นครับ

 

 

ก่อนจะจบไลฟ์ จ๊อบซังได้สรุปอีกครั้งว่า

 

1. น้องคนนี้เป็นคนพิการ เขาใช้บัตรและเลนตามปกติ
2. ข้อผิดพลาดที่เกิดขึ้น ใส่หน้ากาก มีการถ่ายรูปและเอารูปไปโพสต์ เป็นข้อผิดพลาดของทางทีมงานที่ไม่เข้มงวดเพียงพอ จะนำไปแก้ไข ปรับปรุง
3. ในส่วนของผู้บริหาร ทีมงาน เราเห็นความสำคัญของความเท่าเทียมกัน จะเป็นกฏ และเป็นบทเรียนที่ทำให้เราเน้นย้ำ ควรให้ความสำคัญทุกเรื่อง

ผมขอสัญญานะครับไม่ว่าจะเป็น VIP คนไหน หรือใคร หรือคนทั่วไป ก็ใช้กฏเดียวกันที่เราวางไว้

 

 

โพสต์จาก คุณต้อม จิรัฐ บวรวัฒนะซีอีโอ บริษัท บีเอ็นเค โฟร์ตี้เอท ออฟฟิศ จำกัด

 

@ignitejirath พื้นที่แห่งกำลังใจ... สำหรับผม bnk48 เป็นมากกว่าธุรกิจ นับตั้งแต่วันแรกที่ได้เริ่มต้น ในช่วงเวลาเพียงแค่ปีกว่าๆ เราได้เห็น ได้รับฟัง ถึงเรื่องราว แห่งกำลังใจ ที่แฟนๆหลายๆคน ได้รับจาก bnk48 ทั้งจากคนที่เป็นโรคซึมเศร้า ทั้งจากคน ที่ไม่สมบูรณ์ 100% ทั้งจากคนที่กำลังตั้งใจและพยายามทำในเรื่องต่างๆนาๆอยู่ ไม่ว่าจะเป็นเด็กเป็นผู้ใหญ่ เป็นผู้ชายเป็นผู้หญิง มวลกำลังใจเหล่าเหล่านี้เป็นมวลพลังที่ทำให้ ผมพยายามจะสรรหาโครงการดีๆ ความร่วมมือดีๆ การช่วยเหลือสังคม ในรูปแบบต่างๆเท่าที่เราจะทำได้ 

 

ในกรณีของเหตุการณ์ ที่เรียกว่าโอตะ VIP ที่เกิดขึ้นนั้น ก็เกิดขึ้นจากจุดเริ่มต้นเดียวกันคือความต้องการในการมอบกำลังใจให้กับผู้ด้อยโอกาส โดยนำมาซี่งความผิดหวังของแฟนๆ ต่อสิทธิพิเศษนี้ ต่อวิธีการถ่ายทอดเรื่องราวของเจ้าของภาพนั้น ผมในฐานะของ ผู้บริหารสูงสุด ขององค์กรนี้ ขอ ยอมรับต่อความผิดพลาดนี้และจะพยายามทำให้ไม่เกิดเรื่องราวแบบนี้ขึ้นอีก.... และแน่นอนที่สุดว่าผมจะพยายามอย่างยิ่งที่จะทำให้bnk48 เติบโตขึ้นอย่างยั่งยืน ด้วยการแก้ไขปัญหาการจัดการทั้งเรื่องสินค้า กิจกรรมต่างๆ รวมถึงการพัฒนาคอนเทนท์ในรูปแบบต่างๆที่จะพาน้องๆbnk48 ไปมอบความสุขให้กับผู้คนในภาพใหม่ๆหมุนเวียนเปลี่ยนแปลงไป......ขอบคุณครับ

 

 
 
 
 
 
View this post on Instagram
 
 
 
 
 
 
 
 
 

ก่อนอื่นต้องขอโทษกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นและรู้สึกเสียใจกับเหตุการณ์นี้อย่างที่สุด จากหลายๆประเด็นในsocialในขณะนี้จะขอไล่เรียงเหตุการณ์และอธิบายให้ทุกคนได้รับข้อเท็จจริง โรสไม่ได้รู้จักกับแฟนคลับท่านนี้เป็นการส่วนตัวแต่ผ่านการแนะนำจากเพื่อนว่าเค้าชื่นชอบในBNK48และน้องๆเมมเบอร์ทำให้ชีวิตของเค้าดีขึ้น เค้าเป็นผู้พิการมีบัตรผู้พิการและใบรับรองจากแพทย์ ทางBNK48ดีใจที่เป็นส่วนหนึ่งในการมอบความรู้สึกที่ดีและกำลังใจและเห็นร่วมกันว่าเราอยากจะมอบความสุขนี้ให้กับคนที่ไม่มีโอกาศหรือขาดที่พึ่งเพื่อที่จะใช้ชีวิตให้ดีกว่าที่เป็นอยู่ จากงานจับมือเมื่อวานเพื่อนโรสเป็นผู้จัดหาบัตรจับมือและพามาโดยบัตรVIPที่ห้อยอยู่เป็นเพียงแค่บัตรผ่านทางในการตรวจคนเข้างานที่เร็วขึ้นไม่ได้มีอภิสิทธิ์เหนือแฟนคลับท่านอื่น หากมีอภิสิทธิ์ต่างๆจริงคงได้เข้าไปหลังงานไม่ต้องมาใช้piority laneในงานครั้งนี้ โรสได้จัดเตรียมของให้จริงเนื่องจากเค้าไม่สามารถไปต่อคิวนานๆได้โดยไม่คิดว่าความหวังดีและน่าเห็นใจจะทำให้เค้านำไปโพสข้อความในทางที่ผิดและเกิดผลกระทบขนาดนี้ มีคนถามมาว่าทำไมไม่ออกมาพูดเอง...เนื่องจากว่าในการทำงานบริษัทได้มีการแบ่งหน้าที่กันชัดเจนโดยที่คุณจ็อบมีหน้าที่ในการดูแลเมมเบอร์ การตลาด(รวมถึงอีเว้นท์เช่นงานจับมือหรือ2-shot)และการปฏิสัมพันธ์กับกลุ่มแฟนคลับ คุณต้อมดูแลเรื่องภาพรวมของบริษัทและการขยายงานต่างๆ ส่วนโรสดูและงานหลังบ้านของบริษัททั้งหมด หน้าที่ในการออกมาพูดจึงเป็นคุณจ็อบแต่จากเหตุการณ์ครั้งนี้ได้มีแฟนคลับที่ไม่พอใจต่อเหตุการณ์นี้อยากจะให้โรสออกมาชี้แจงเลยอยากจะขอให้พื้นที่นี้ในการชี้แจงและขอโทษกับสิ่งที่เกิดขึ้น เหตุการณ์นี้จะเป็นบทเรียนในการทำงานที่ต้องรัดกุมยิ่งขึ้น

A post shared by Dr.Rose (@roseoraphan) on

 

โพสต์ชี้แจงจาก คุณโรส ภรรยา

 

@roseoraphan ก่อนอื่นต้องขอโทษกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นและรู้สึกเสียใจกับเหตุการณ์นี้อย่างที่สุด
จากหลายๆประเด็นในsocialในขณะนี้จะขอไล่เรียงเหตุการณ์และอธิบายให้ทุกคนได้รับข้อเท็จจริง
โรสไม่ได้รู้จักกับแฟนคลับท่านนี้เป็นการส่วนตัวแต่ผ่านการแนะนำจากเพื่อนว่าเค้าชื่นชอบในBNK48และน้องๆเมมเบอร์ทำให้ชีวิตของเค้าดีขึ้น เค้าเป็นผู้พิการมีบัตรผู้พิการและใบรับรองจากแพทย์ ทางBNK48ดีใจที่เป็นส่วนหนึ่งในการมอบความรู้สึกที่ดีและกำลังใจและเห็นร่วมกันว่าเราอยากจะมอบความสุขนี้ให้กับคนที่ไม่มีโอกาศหรือขาดที่พึ่งเพื่อที่จะใช้ชีวิตให้ดีกว่าที่เป็นอยู่ จากงานจับมือเมื่อวานเพื่อนโรสเป็นผู้จัดหาบัตรจับมือและพามาโดยบัตรVIPที่ห้อยอยู่เป็นเพียงแค่บัตรผ่านทางในการตรวจคนเข้างานที่เร็วขึ้นไม่ได้มีอภิสิทธิ์เหนือแฟนคลับท่านอื่น หากมีอภิสิทธิ์ต่างๆจริงคงได้เข้าไปหลังงานไม่ต้องมาใช้piority laneในงานครั้งนี้ โรสได้จัดเตรียมของให้จริงเนื่องจากเค้าไม่สามารถไปต่อคิวนานๆได้โดยไม่คิดว่าความหวังดีและน่าเห็นใจจะทำให้เค้านำไปโพสข้อความในทางที่ผิดและเกิดผลกระทบขนาดนี้ มีคนถามมาว่าทำไมไม่ออกมาพูดเอง...เนื่องจากว่าในการทำงานบริษัทได้มีการแบ่งหน้าที่กันชัดเจนโดยที่คุณจ็อบมีหน้าที่ในการดูแลเมมเบอร์ การตลาด(รวมถึงอีเว้นท์เช่นงานจับมือหรือ2-shot)และการปฏิสัมพันธ์กับกลุ่มแฟนคลับ คุณต้อมดูแลเรื่องภาพรวมของบริษัทและการขยายงานต่างๆ ส่วนโรสดูและงานหลังบ้านของบริษัททั้งหมด หน้าที่ในการออกมาพูดจึงเป็นคุณจ็อบแต่จากเหตุการณ์ครั้งนี้ได้มีแฟนคลับที่ไม่พอใจต่อเหตุการณ์นี้อยากจะให้โรสออกมาชี้แจงเลยอยากจะขอให้พื้นที่นี้ในการชี้แจงและขอโทษกับสิ่งที่เกิดขึ้น เหตุการณ์นี้จะเป็นบทเรียนในการทำงานที่ต้องรัดกุมยิ่งขึ้น

 

โพสต์จากคนที่เป็นเรื่องราว #โอตะVIP

 

 

 

 

 

จากเรื่องราวที่ผ่านมา ทำให้เห็นว่า พลังแฟนคลับถือว่าสำคัญ วง BNK48 เป็นที่จับตามองมากขึ้น คนที่ชื่นชอบก็มาก และคอยจับผิดก็มากเช่นกัน เป็นบทเรียนของทั้งทางต้นสังกัด ทีมงาน และแฟนคลับเองด้วย ความครุกรุ่นของดราม่าครั้งนี้จะมีผลอีกนานมั้ย ไม่มีใครบอกได้จริง ๆ สำหรับผู้เขียนเอง เป็นคนหนึ่งที่ติดตามวงไอดอล และ แฟนคลับ ไปพร้อม ๆ กัน ระบบไอดอล ก็เหมือน ระบบสังคมในบ้านเรา มีทั้งคนที่หวังดี และคนที่หาประโยชน์ อยู่ที่จะอยู่ร่วมกันในสังคมอย่างไรให้เป็นสุข และส่งเสริมคนที่เรารักอย่างถูกต้องและมีประโยชน์และความสุขไปทั้งสองฝ่าย มันห้ามยากสำหรับเรื่องดราม่าต่าง ๆ ที่จะเกิดขึ้น วงรุ่นพี่เองก็ยังหลายเรื่องราวแต่ะเขาฝ่าฝันจนมีรุ่นอย่างไปในประเทศต่าง ๆ เรามาช่วยกันผลักดันวงการนี้ให้น่าอยู่กันต่อไปด้วยกันเถอะค่ะ

 

 

ขอบคุณจาก อินสตาแกรม https://www.instagram.com/ignitejirath/  https://www.instagram.com/roseoraphan/ 
https://www.facebook.com/bnk48official.shihainin/ 

 

 

อัพเดทข่าวสารวงการเพลงไทยและสากล พร้อม Scoop เจาะลึกในมุมมองที่น่าสนใจ ติดตาม Music.trueid.net ได้อีกช่องทางที่ TrueID App หรือร่วมพูดคุยกันผ่านทาง Line @TrueID

 

ยอดนิยมในตอนนี้

แท็กยอดนิยม

บทความที่เกี่ยวข้อง